“วิหารนอเทรอดาม” หรือ “อาสนวิหารนอเทรอดาม” เป็นศาสนสถานสำคัญในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
โดยวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี คศ. 1163 หรือใน พ.ศ. 1706 หรือ 856 ปี ก่อนหน้านี้ ทั้งนี้หากเทียบกับประวัติศาสตร์ไทย ก็จะอยู่ในช่วงก่อนกรุงสุโขทัยเล็กน้อย และอยู่ในช่วงยุคกลางของยุโรป
การก่อสร้าวิหารแห่งนี้เริ่มจากเมื่อ ปี ค.ศ. 1160 บิชอปมอริส เดอ ซูว์ลี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นบิชอปแห่งปารีส และได้เห็นว่าโบสถ์เดิมที่ตั้งอยู่ไม่มฐานะจึงให้สร้างขึ้นใหม่ ทั้งนี้การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี ค.ศ. 1163 ช่วงการครองราชย์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 7
การก่อสร้างวิหารแห่งนี้ มีการต่อเติมมาเรื่อย ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มการก่อสร้างทางด้านหน้าหรือด้านตะวันตก ซึ่งมีหอคอยสองหอ ที่กลายเป็นจุดเด่น โดยเริ่มขึ้นในประมาณปี ค.ศ. 1200 ก่อนที่จะสร้างโถงกลางของตัวโบสถ์เสร็จ และด้วยระยะเวลาการก่อสร้างที่ยาวนานทำให้มีสถาปนิกจำนวนมากที่ร่วมในโรงการนี้ โดยวิหารสร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1345 หรือ 182 ปี หลังจากที่เริ่มก่อสร้าง
เพลิงไหม้ “มหาวิหารนอเทรอดาม” ในกรุงปารีส
ทั่วโลกร่วมเสียใจเหตุ ไฟไหม้ “นอเทรอดาม”
คำว่า Notre Dame แปลว่า แม่พระ (Our Lady) ที่เป็นคำใช้เรียกพระแม่มารี พระมารดาของพระเยซู
โดยปัจจุบันวิหารแห่งนี้ยังทำหน้าที่เป็นทั้งโบสถ์โรมันคาทอลิกและเป็นที่พักอาศัยของอาร์ชบิชอปแห่งปารีส
โดยศิลปะที่ก่อสร้างนั้นเป็นศิลปะแบบกอธิก มีประติมากรรมต่างๆและประดับกระจกสีที่เป็นจุดเด่น
อย่างไรก็ตามมีการระบุว่า “นอเทรอดาม” เป็นสิ่งก่อสร้างแรกๆที่ใช้ "ครีบยันลอย" ที่ใช้รับน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อเริ่มสร้างกำแพงโบสถ์สูงขึ้นกำแพงก็เริ่มร้าวเพราะน้ำหนักของสิ่งก่อสร้าง เพราะสถาปนิกสมัยนั้นจะเน้นการสร้างสิ่งก่อสร้างที่สูง บาง และโปร่ง เมื่อสร้างสูงขึ้นไปกำแพงก็ไม่สามารถรับน้ำหนักและความกดดันของกำแพงและหลังคาได้ทำให้กำแพงโก่งออกไปและร้าว สถาปนิกจึงใช้วิธีแก้ด้วยการเติม "กำแพงค้ำยัน" ที่กางออกไปคล้ายปีกนกด้านนอกตัววัด เพื่อให้กำแพงค้ำยันนี้หนุนหรือค้ำกำแพงตัวโบสถ์เอาไว้ เ
ต่อมาในปี ค.ศ. 1793 ระหว่างการปฏิวัติฝรั่งเศส โบสถ์ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ประติมากรรมและศิลปะทางศาสนาถูกทำลายไปมาก อาสนวิหารได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 19 จนมีสภาพเหมือนก่อนหน้าที่ถูกทำลาย
ฝรั่งเศส แจงคุมเพลิง “วิหารนอเทรอดาม” ได้แล้ว
และในวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 2019 ก็เกิดเพลิงไหม้ สร้างความเสียหายอย่างหนัก บริเวณยอดแหลมได้พังลง กระจกสีเกี่ยวกับเรื่องราวของพระเยซูและคริสต์ประวัติได้รับความเสียหาย งานแกะสลักไม้และภาพวาดเก่าแก่ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน เหลือทิ้งไว้เพียงโครงเหล็ก ขณะที่หอคอยคู่ไม่ได้รับความเสียหาย
โดยเพลิงไหม้ครั้งนี้ สร้างความเสียใจให้กับชาวคริสต์และชาวโลก เพราะเป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งยุคสมัย
นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ยังเป็นฉากในนิยายของ วิกเตอร์ อูโก เรื่อง The Hunchback of Notre Dame ซึ่งเป็นเรื่องของชายรูปร่างพิการที่หลงรักนางระบำชาวยิปซีและทำทุกอย่างเพื่อปกป้องนาง จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม โดยมีวิหารแห่งนี้เป็นฉากในนิยาย