ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ทางการไทยดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างที่พักอาศัยลอยน้ำอยู่กลางทะเลห่างจากเกาะราชาใหญ่ จังหวัดภูเก็ตไป 14 ไมล์ทะเล ซึ่งล่าสุด Ocean Builders ขู่จะฟ้องศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหากทางการไทยจะทำลายหรือรื้อถอน ด้านกองทัพเรือ ล่าสุดส่งเรือตรวจการณ์ออกไปเคลื่อนย้ายที่พักอาศัยกลางทะเลกลับเข้าฝั่งในวันนี้ พร้อมปฏิเสธข่าวการส่งกำลังคุกคามสองสามีภรรยาตามที่เป็นข่าวในสื่อต่างประเทศ
โดยเช้าวันนี้ บริเวณหลักเทียบเรือ ทัพเรือภาคที่ 3 ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 (ศรชล. เขต 3 อ่านว่า สอน-ชน เขต 3 ) นำเรือตรวจการณ์ ต.991 ของกองทัพเรือ ออกเดินทางไปยังจุดติดตั้งที่พักอาศัยกลางทะเล หรือที่เรียกว่า บ้านลอยน้ำของกลุ่ม Seasteading ห่างจากเกาะภูเก็ตไปประมาณ 22 กิโลเมตร เพื่อเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำซึ่งเป็นของกลางในคดีดังกล่าวกลับเข้าฝั่งในวันนี้
อัยการชี้รื้อบ้านกลางทะเลได้ แม้อยู่นอกราชอาณาจักร
เชื่อสามีภรรยาบ้านลอยน้ำยังอยู่ในพื้นที่
หลังตรวจสอบพบว่า บ้านลอยน้ำมีสภาพไม่มั่นคงแข็งแรง หากปล่อยไว้อาจจะเกิดปัญหาตามมา จึงได้ใช้อำนาจของกฎหมายเข้าทำการรื้อถอน
สำหรับการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าฝั่งนั้นจะใช้วิธีการแยกชิ้นส่วนระหว่างเสาเหล็กที่เป็นทุ่นกับตัวอาคารทรงแปดเหลี่ยมออกจากกัน โดยใช้ทีมเจ้าหน้าที่จากกองโรงงาน ฐานทัพเรือพังงา และชุดปฏิบัติการพิเศษ ทัพเรือภาคที่ 3 รวมทั้งเรือลากจากฐานทัพเรือพังงา ดำเนินการเคลื่อนย้ายวัตถุดังกล่าวกลับเข้าฝั่ง เนื่องจากเป็นพยานวัตถุแห่งคดีอาญาและพยานหลักฐานต้องสมบูรณ์และพร้อมนำสืบในบริเวณพื้นที่ที่กระทำความผิด
ตกลง "เขตอำนาจอธิปไตยไทย" อยู่ตรงไหน
ด้าน พลเรือโทกาญจน์ ดีอุบล เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวที่อ้างว่ามีเจ้าหน้าที่ติดตามคุกตามสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านลอยน้ำ โดยโฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า ข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง กองทัพเรือ ไม่ได้ส่งกำลังพลติดตามหรือคุกคามนายเชด แอนดริว เอลวอทอวสกี้ และภรรยา ตามที่พวกเขาให้ข่าวกับสื่อต่างประเทศ โดยการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย
กองทัพเรือยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย คือ เมื่อตรวจสอบพบการกระทำผิดก็แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่และขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานที่รับผิดชอบด้วยกันหลายหน่วยงาน ได้แก่
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของนายเชด พร้อมทั้งปิดหมายแจ้งคำสั่งปกครองให้คนต่างด้าวทราบและขอให้บันทึกรายชื่อลงระบบข้อมูลเป็นบุคคลต้องห้าม
สถานีตำรวจภูธรวิชิต รับแจ้งความจากทัพเรือภาคที่ 3 ศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล เขต 3 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานส่งอัยการสูงสุด
หากอัยการสูงสุดรับเป็นคดีแล้วจึงจะยึดที่พักอาศัยลอยน้ำเป็นของกลาง โดยการดำเนินการเคลื่อนย้ายบ้านลอยน้ำกลับเข้าสู่ฝั่ง ทัพเรือภาคที่ 3 เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมขั้นตอนการลากที่พักอาศัยลอยน้ำดังกล่าวเข้าฝั่งเอาไว้แล้ว
ส่วนจังหวัดภูเก็ตได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานทูตสหรัฐอเมริกาให้รับทราบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้นได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต เข้าทำการตรวจสอบโรงงานที่ผลิตโครงสร้าง ซึ่งผลการตรวจสอบโรงงานดังกล่าวไม่มีใบอนุญาต จึงสั่งให้หยุดการดำเนินงานทันที รวมถึงให้พาณิชย์จังหวัด ศุลกากรจังหวัด และองค์การบริหารส่วนตำบลไม้ขาว เข้าตรวจสอบโรงงานว่ามีการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายหรือไม่
ด้านนายสุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดีนั้นยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด โดยใช้กฎหมายความมั่นคงในราชอาณาจักร ซึ่งมีโทษร้ายแรง จึงต้องใช้ความรัดกุมในการดำเนินการ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตยังกล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนอีกแห่งหนึ่งออกมายอมรับว่าเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างบ้านลอยน้ำดังกล่าว โดยที่ 2 สามีภรรยานั้นเป็นเพียงอาสาสมัคร ว่า ประเด็นนี้ทราบเรื่องแล้ว และมีการหารือกันเบื้องต้นแล้ว แต่เนื่องจากเป็นประเด็นใหม่ก็คงต้องมีการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เพื่อให้เกิดความชัดเจนก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าบริษัทดังกล่าวขออนุญาตการจัดตั้งบริษัทในประเทศไทย แต่อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงจะต้องตรวจสอบว่าเป็นการหลอกลวงหรือไม่อย่างไร เพราะมีการโฆษณาชวนเชื่อในลักษณะการขายสินค้า โดยอ้างว่าการก่อสร้างอยู่นอกเขตและเป็นทะเลสากล เพื่อจูงใจให้คนมาซื้ออยู่อาศัยโดยอิสระ