หลังได้รับหนังสือเชิญจากกกต. ให้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ชี้แจง กรณีถือครองหุ้นสื่อ และอาจขาดคุณสมบัติผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. โฆษกพรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่า นายธนาธรจะเดินไปชี้แจงกับ กกต.ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันทางพรรคเตรียมจัดทำทามไลน์วันที่ 7-9 มกราคม และอยู่ระหว่างหาภาพวงจรปิดมายืนยัน เพื่อความชัดเจน
นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า ขณะนี้กำลังให้ทีมงานรวบรวมไทม์ไลน์ พร้อมพยานหลักฐานอื่นๆนอกจากบัตรอีซี่พาส ตั๋วเครื่องบิน โดยเฉพาะภาพจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่างๆ เพื่อชี้แจงให้เห็นว่า วันที่ 7-9 มกราคม หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ปรากฎตัวอยู่ที่ใดบ้าง และกลับมาโอนหุ้นบริษัทวี-ลัค มีเดีย ทันในวันที่ 8 มกราคมจริงหรือไม่
ซึ่งนายธนาธรจะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทยในช่วงค่ำวันนี้ เมื่อกลับมาแล้วจะหารือกันว่า นายธนาธรจะเข้าไปพบ กกต.วันไหน โดยนายธนาธรยืนยันว่าจะเข้าไปให้ถ้อยคำกับ กกต.ด้วยตัวเอง เพราะไม่มีอะไรต้องปิดบังเป็นความลับ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็พูดคุยกันว่านายธนาธรยืนยันว่า ไม่กังวลกับข้อกล่าวหาต่างๆที่เกิดขึ้น ซึ่งหากท้ายที่สุด หากได้รับใบส้มหรือถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าสภาจริง นายธนาธรและแกนนำคนอื่นก็พร้อมทำงานอื่นนอกสภาที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่านายธนาธรอาจถูก กกต.ตรวจสอบอีกเรื่องคือ การที่ไปเซ็นรับรองให้ผู้สมัคร ส.ส.ที่ขาดคุณสมบัติและถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว ซึ่งอาจมีความผิดฐานสนันสนุนและรู้เห็นเป็นใจ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ระบุว่า หากจะเอาผิดกันด้วยเรื่องนี้คงไม่มีหัวหน้าพรรคใดเหลืออยู่ในการเมืองไทย เพราะเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นได้ทุกพรรค ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเป็นใจกับผู้สมัครที่ขาดคุณสมบัติ เพราะเป็นข้อผิดพลาดทางเทคนิค
โฆษกพรรคอนาคตใหม่ยังระบุด้วยว่าตั้งแต่ตั้งพรรค พรรคอนคตใหม่และแกนนำโดนคดีไปแล้ว 12 คดีด้วยกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าในทางกฏหมายเอาผิดไม่ได้ทั้ง 12 คดี แต่ไม่มั่นใจว่าเมื่อมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ฝ่ายตรงข้ามจะใช้ประโยชน์จากกฏหมายมาสกัดกั้นพรรคอนาคตใหม่ในคดีไหนสำเร็จได้บ้าง
"ปิยบุตร" ประหลาดใจกกต.แจ้งข้อกล่าวหา "ธนาธร" ปมหุ้นสื่อ
“ธนาธร”ลั่น เดินหน้าสู้คดีโอนหุ้นสื่อ กลับไทย 25 เม.ย. นี้
ทีมกฎหมายอนาคตใหม่ร้องกกต.ยัน"ธนาธร"โอนหุ้นถูกต้อง
