คุยกับ "ช่างตัดผมแห่งยุค" ที่พิสูจน์ตัวเองด้วยการ "ลอยตัว เหนือดราม่า"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลายคนเข้าร้านทำผมเพราะ ผมยาว อยากตัดผมสั้น หลายคนเข้าร้านทำผมเพราะ อยากเปลี่ยนลุคในแบบที่ชอบ และหลายคนเข้าร้านทำผมเพราะ “คุณชื่นชมในฝีมือของช่างทำผมที่ทำให้คุณมั่นใจในตัวเอง” งานตัดผมคือศิลปะ ศิลปะที่ทำเพื่อคนอีกคน เพราะฉะนั้น คงไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่า “ช่างทำผมต้องใช้ใจแลกใจกับลูกค้า” ถ้าถูกใจเขาจะกลับมา แถมพ่วงญาติ พี่น้อง เพื่อนสนิท มาให้ด้วย แต่ถ้า ไม่ ก็จากกันตลอดกาล ยิ่งในสมัยนี้มีโซเชียลมีเดียอยู่ในมือ เดินออกไม่พ้นร้าน อาจจะเกิดกระทู้รีวิวทันที

แล้วทำอย่างไรถึงจะทำให้เกิดการ "รีวิว" แบบปากต่อปาก จาก หนึ่ง เพิ่มเป็นสอง เป็นสาม และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกอย่างล้วนมีเส้นทาง มีระยะเวลา มีบทพิสูจน์ในตัวของมันเอง Life Story วันนี้ นัดคุยกับเส้นทางของคมกรรไกรที่สร้างสรรค์ทรงผมมาแล้วนับไม่ถ้วน ตั้งแต่นักศึกษาจนถึง เซเลบ ดารา  เขาคือ ก้อง “กฤษฎิ์ จิระเกียรติวัฒนา” หรือ ก้อง ไฮฟ์ ซาลอน” 

"ก้อง" ปรากฏตัวในลุค เสื้อสีเหลือง กางเกงขายาว รองเท้าผ้าใบสบายๆ อาจจะดูแปลกตา หากใครติดตามเขาผ่านอินสตราแกรมส่วนตัว ที่มีความเป็น “สายแฟ(แฟชั่น)” อยู่ไม่น้อย และหลายคนอาจรู้จักเขาในฐานะเพื่อนดาราดัง อย่าง ชมพู่ อารยา เอ ฮาเก็ต คริส หอวัง แต่เชื่อหรือไม่ว่า เขาไม่เคยบอกให้เพื่อนดารามาทำผมที่ร้านเพื่อโปรโมทให้เลย

"ผมไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเยอะ ถามลูกค้าทุกคนได้เลยที่เป็นดาราหรือที่เป็นศิลปินที่เป็นเพื่อน ผมไม่เคยชวนเขามาทำผมนะ ชีวิตการเป็นช่างทำผม ไม่เคยชวนดารามาทำผมที่ร้าน ผมรู้จักชมพู่ รู้จักกันเป็นเพื่อน รู้จักกันมาตั้งนาน ก็ไม่เคยชวนมาทำผม จนกระทั่งเพื่อนเขาเอ่ยปากเอง เรารักษาเขาด้วยการเคารพการตัดสินใจ เป็นเพื่อนกันไม่จำเป็นต้องทำผมกับผมก็ได้ ผมก็ยังคบเป็นเพื่อนอยู่ ผมไม่ใช่คนที่เธอเป็นเพื่อนฉันทำไมเธอไม่ทำผมกับฉัน ไม่เคยถาม ไม่เคยพูดเลย"

ทีมงาน Life Story  นัดเจอกันที่ร้าน ไฮฟ์ ซาลอน สาขาเซ็นทรัล เวิลด์ ซึ่งเป็นสาขาที่ 3 ร้านใจกลางเมืองแบบนี้ลูกค้ามีตั้งแต่วัยรุ่นคนไทย ไปจนถึงชาวต่างชาติ แต่ก่อนที่จะมาถึงสาขาที่ 3 แบบวันนี้ เขาใช้ความ "รักในการตัดผม ทำผม" พิสูจน์ตัวเองมาตลอด

“เป็นคนหน้าบึ้งเวลาตัดผม เพราะว่าเป็นคนที่เวลาโฟกัสอะไรแล้ว มันจะเครียดนิดนึง ลูกค้าคุยอะไรกับเราหูเราไม่ได้ยิน อยู่กับตัวเองค่อนข้างเยอะ”

เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกค้าประจำเดินเข้ามาให้เขาได้ตัดแต่งทรงผมให้ ซึ่งเราสังเกตว่าสิ่งที่เขาบอก ว่า “หน้าบึ้ง” นั้น “มันคือสมาธิและความตั้งใจที่เขาใส่ไปเกินร้อยต่างหาก”

“ทำไมถึงชอบทำผม” เราเริ่มกันที่คำถามง่ายๆ ธรรมดาๆ ที่จะนำมาซึ่งตัวตนของเขาจริงๆ

“ถ้าพอมองกลับไปจริงๆ มานั่งสังเกตดูคือเป็นคนชอบเข้าร้านทำผมมากกว่า เราชอบแฟชั่นมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วคือสมัยก่อนเราเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญต้องไว้ผมเกรียนมาตลอด พอทุกครั้งที่มีปิดเทอมก็เอาละจะเลี้ยงผมยาว หาเรื่องไปสยามสแควร์ไปตัดตามร้านดังๆ ร้านโน้นร้านนี่อะไรอย่างนี้ครับจนไปเรียนมหาลัยที่สหรัฐอเมริกา หลังสอบ Final เสร็จ เราก็จะไปตัดผมเปลี่ยนสีผมทำผม แล้วเวลาเราเข้าไปร้านทำผม เนื่องจากเราเลือกร้านที่ช่างค่อนข้างมีชื่อเสียง เราชอบคุยกับเขา มองเขาทำโน้นทำนี่ ก็ถามว่านี่คืออะไร ทำอย่างนี้ทำไมอะไรอย่างนี้ครับ ไปๆมาๆก็เลยกลายเป็นชอบไปเลยโดยไม่รู้ตัว”

จากชอบเข้าร้าน...ก็เริ่มทำให้เพื่อนในหอพัก

“แล้วก็มีอยู่วันหนึ่งเพื่อนเดิมเข้ามาแล้วก็ยื่นแบตตาเลี่ยนให้ แล้วบอกว่าช่วยไถผมให้หน่อย ไถธรรมดาเลยใส่รองเบอร์หนึ่งเบอร์สอง เราก็งงเราบอกเราทำไม่เป็นนะ เขาบอกลองดูฉันเชื่อ จนจำได้ว่าปี 2 ไปเจอเพื่อนคนหนึ่ง แม่เขาเป็นเจ้าของร้านทำผมอยู่ที่ลอสแอนเจลิส เราก็เลยขอไปช่วยงานเพราะตอนนั้นกำลังหางานพิเศษทำอยู่ ก็เลยไปขอทำงานที่ร้านทำผม”

การทำงานพิเศษของเขา อาจจะดูแตกต่างจากนักเรียนหลายๆ คน ที่เลือกทำงานร้านอาหาร ได้ทิปพิเศษ แต่ ก้องเลือกในสิ่งที่เขาชอบ และมันเป็นโอกาสที่ดี คือ “ร้านทำผมของแม่เพื่อน” ซึ่งมีหน้าที่ทำทุกอย่าง ตั้งแต่รับจองคิว เสริ์ฟกาแฟ เอาผ้าไปซัก พับผ้า ตัดกระดาษฟอยล์ จนเจ้าของร้านเริ่มสอน สระไดร์ สอนม้วนผม ซึ่งลูกค้าคนแรกๆ ที่สระผมกับเขา “เสื้อเปียกไปก็หลายคน” (ยิ้ม)

“ตอนนั้นเริ่มอยากจริงจังกับอาชีพนี้หรือยัง”

“ ไม่เคยคิดเลยด้วยซ้ำ ว่าอันนี้จะเป็นอาชีพที่เป็นอาชีพหลักในการเลี้ยงตัวเอง ดำรงชีวิตแล้วก็ขยายกิจการหรืออะไรก็แล้วแต่ไม่เคยอยู่ในหัวเลย แค่คิดว่าสนุกและมีความสุขที่ได้ทำก็เลยไปเรียนครับ ก็ยังไม่คิดว่าจะมาเป็นอะไรที่จะมาเลี้ยงตัวเอง พอจบมหาวิทยาลัยตอนนั้นเราทำผมเป็นแล้ว เราก็แอบทำผมให้แม่ ให้ญาติพี่น้องมาโดยตลอด โดยที่เราไม่กล้าบอกพ่อ เรากลัวพ่อหาว่าเราไม่ตั้งใจเรียน เขาอุตส่าห์ส่งไปเรียนบริหารธุรกิจ” 

แต่เพราะ "Passion ความรัก" ทำให้พัฒนาและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ “จึงรวบรวมความกล้าไปบอกพ่อ” จนได้ไปเรียนทำผมที่ประเทศอังกฤษอย่างที่ตั้งใจ จนวันนี้เขารับรู้ว่า “พ่อโอเคกับเรา”

“โตขึ้นมาเขาไม่เคยชม ต่อให้เรียนได้เกรด 4 เขาก็ไม่ชม สมัยก่อนเป็นนักกีฬาแข่งได้เหรียญเขาก็ไม่ชม แต่ถ้าเขาพอใจเขาก็จะไม่ด่า จะไม่ติ เราจะรู้เอง แต่เขาจะไปชมกับเพื่อนเขา เขาจะไปเล่าให้ญาติฟัง แล้วสารมันก็จะกลับมาหาเราเอง แต่เขามั่นคงมาก 60 ปีไม่เคยชมต่อหน้า ก็ยังไม่เคยชมอยู่ แต่เราก็รู้ลึกๆเขาก็โอเคกับเรา ว่าเขาไว้ใจแล้ว เขาวางใจเราได้ให้เราทำตรงนี้ครับ”

หลายคนอ่านมาถึงตรงนี้อาจตีความว่า ก็คงตามแบบฉบับลูกคุณหนู บ้านมีธุรกิจ อยากเรียนในสิ่งที่ตัวเองชอบ แต่สุดท้ายก็ต้องมารับช่วงต่อที่บ้าน ไม่ได้จริงจังกับความชอบอะไรเท่าไหร่ คำเหล่านี้เกิดขึ้นกับ “ก้อง” มาตลอด แต่เขาเลือกที่จะ...

“ลอยตัวเหนือดราม่า แล้วเดินหน้าพิสูจน์ตัวเอง”  และก่อนจะมาเป็น ไฮฟ์ ซาลอน แบบวันนี้จุดเริ่มต้นแรกคือ ห้องเล็กๆ ในร้านสปาของแม่ ที่ต้องเปิดร้านหลัง 6 โมงเย็น เพราะ... 

“ กลับมาจากอังกฤษตอนแรกกลับมาถึงงานแรกที่ได้คือการมาทำงานกับ Central Marketing Group(CMG) เกือบปี แล้วเราเปิดร้านเล็กๆ อยู่ที่บ้าน มีผู้ช่วยหนึ่งคน ก็มีเก้าอี้สองตัว  เตียงสระหนึ่งเตียง ทุกอย่างแบบสบายๆง่ายๆหมด ยังจำได้เลยตอนนั้นที่เปิดตอนแรก เครื่องอบไอน้ำทำทรีทเม้นท์ยังไม่มีเลย เราก็ค่อยๆทำเลยจริงๆ จนไอห้องเล็กๆเหล่านั้น เรารับลูกค้าเต็มทุกวัน รับลูกค้า 6 คน ทำสีนะครับแต่ทำสี 6 คน ถือว่าค่อนข้างหนักแล้ว เพราะว่ามีผู้ช่วยคนเดียว ทำเอง งานประจำเราเริ่มต้น 9 โมงเช้า เสร็จจริงๆ ควรจะประมาณ 4 โมงครึ่ง 5 โมงเย็น บางทีก็ลากยาวไป 6 โมงเย็น แต่เรารับลูกค้าที่บ้านเรา 6 โมงเย็น ทำถึง 3 ทุ่ม  เสาร์อาทิตย์ก็คือทำเต็มวัน มันก็กลายเป็นว่าจากการแค่ทำช่วงเล็กๆสั้นๆ แค่นั้น กับ เสาร์อาทิตย์ สิ้นเดือนมามันกลายเป็นรายได้หลักของเรา มากกว่างานประจำ 3 เท่า เราก็เลยรู้สึกว่าเราทำอะไรอยู่ ทำไมเราไม่มาโฟกัสตรงนี้ก็เลยออกมาเลย มาโฟกัสตรงนี้อย่างเดียว ก็ใช้เวลาประมาณ 2 ปีครับ รับลูกค้าแค่เล็กๆ ที่บ้าน ค่อยๆ สร้างฐานลูกค้า ลูกค้าบอกปากต่อปาก จนเรารู้สึกว่าถึงจุดที่เราเปิดร้านเองได้แล้วนะ”

HIVE SALON หลังสวนก็เกิดขึ้น

แต่แตกต่างจากเดิมเพราะต้องมีเรื่องการบริหารคน การจัดการร้านเข้ามา

“พอเปิดร้านมีลูกน้องหลายคน มันกลายเป็นมันมีอะไรหลายสิ่งมากขึ้นที่ต้องโฟกัส ชีวิตเขากลายมาเป็นชีวิตเรา จากแต่ก่อนดูแลตัวเอง มาตรฐานงานเป็นงานเราหมด พอเปิดร้านช่างคนอื่นมาตรฐานของเขาก็ส่งผลมาที่ตัวเรา เพราะเราเป็นเจ้าของร้าน ต้องมานั่งโฟกัสหมด เพราะฉะนั้นแล้ว สิ่งที่เราต้องคิดควบคู่ไปด้วยมันมี ปัจจัยมันมีเยอะมากขึ้น เริ่มต้นวันที่ 1 ของเดือนมีค่าเช่ารอ เงินเดือนลูกน้องรอแล้ว"

แต่ก็ไม่วายโดนครหามี “ครอบครัวคอยดัน” ซึ่งในความจริงตรงกันข้าม เขาคืนทุนในพ่อภายใน 1 ปี และเปิดสาขาอื่นๆ ด้วยเงินของตัวเองทั้งหมด

“ มาเปิดร้านร้านแรกคุณพ่อออกให้ก่อนแต่ผมก็เก็บคืนภายในปีหนึ่งก็คืนหมดครับ แล้วก็หลังจากร้านสาขาแรก สาขา 2 สาขา 3 ก็คือของเราหมด 100 เปอร์เซ็นต์ เราไม่เคยไปวุ่นวายอะไรที่บ้านอยู่แล้วครับ เพราะอย่างหนึ่งตั้งแต่ไหนแต่ไรมาเรามีความคิดอยู่ในหัวตลอดเวลาเราต้องดูแลพ่อดูแลแม่ให้ได้ เพราะฉะนั้นการเอาภาระไปให้เขาไม่ใช่เราแน่นอน หลังจากเปิดสาขาแรกจบเสร็จ ผมเริ่มรู้สึกว่าเราเริ่มดูแลพ่อแม่ได้ อย่างน้อยๆ เราก็เริ่มจากคุณแม่ก่อน ดึงบัตรเครดิตเขามาเป็นของเรา เราชำระค่าบัตรเครดิตให้ เขาไปเที่ยวเราดูแลอะไรต่างๆ มันเป็นไรที่เล็กๆน้อยๆ แค่ลึกๆ รู้ว่าได้ทำ เรารู้สึกโอเคแล้ว สบายใจตรงนั้น "

แล้วมองข้าม ความดราม่า คำครหา ได้อย่างไร

“ ช่วงแรกๆ อาจจะท้อครับ ท้อหนักเลยแหละ มีทั้ง อ๋อ ก็พ่อแม่เขาสนับสนุน เป็นไฮโซ ก็เอาจริงๆแล้วคำว่า ไฮโซ แปลว่าอะไร สมมติเป็นช่างผมไฮโซ แปลว่า ผมเอาเงินไปจ้างให้ดารามาทำผมที่ร้าน เอาเงินไปจ้างให้คนมาเป็นลูกค้าแล้วผมจะทำธุรกิจได้ไหม ไม่ใช่ การที่เรามีโอกาสในการที่ได้ไปเรียนทำผมเมืองนอกตามที่เราต้องการ กลายมาเป็นสิ่งที่ช่วงแรกที่เรากลับมา ช่างรุ่นเก่าบางคน กลายไปเป็นสิ่งที่เขาไม่ยอมรับเรา แน่นอนถ้าคุณมีโอกาสคุณก็ไป แต่กลายเป็นว่าเด็กรุ่นใหม่มีโอกาสได้ไปแต่คุณกางแขนไม่ต้อนรับให้เขากลับมา มันไม่ใช่ ช่วงแรกๆ ก็เครียดเหมือนกันครับ โดนบล็อกบ้าง โดนอะไรต่างๆบ้าง แต่เราโชคดีอย่างหนึ่งคือ “เราเป็นช่างที่เรามีลูกค้าในมือ ซึ่งคือลูกค้าเราก็รู้จักเราดี ”

จากจุดเริ่มต้น “ทำผมในหอพักให้เพื่อน หัดสระไดร์ร้านแม่เพื่อน เปิดร้านเล็กๆในห้องบ้านแม่หลังเลิกงานประจำ” ทุกวันนี้ เขายังไม่หยุดพัฒนาตัวเอง โดยมีลูกค้าเป็นแรงบันดาลใจผลงานใหม่ๆ จนบางคนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ออกแบบตามไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต ลูกค้าบางคนตั้งแต่ก่อนแต่งงานจนเป็นคุณแม่ ก็จะปรับเปลี่ยนทรงผมไปตามช่วงชีวิตของลูกค้า”

"เขาเดินมาเขาบอกว่าช่วงนี้หนูเอ็นจอยมากเลยเพิ่งไปสอบดำน้ำมา ชอบไปดำน้ำดูโลกใต้ทะเล ตอนนี้มีน้องแล้วด้วย ชีวิต มีสีสันต์ ออกกำลังกายก่อนไปทำงานทุกวัน ตอนนี้ขายของออนไลน์ด้วย ทุกอย่างเหล่านี้มันเป็นเรื่องราว ทำให้เรามาคิดว่าเราอยากจะทำงานอะไรกับเขา เขาบอกเขาดำน้ำ ดังนั้นเราฟอกผมเขาไม่ได้ ต่อให้เขาอยากทำผมสีสว่าง เราก็ฟอกไม่ได้เพราะว่าเขาไปทะเลตลอด เขาดำน้ำตลอด ผมเค้าคุณภาพก็จะไม่ได้ บางคนดูแลตั้งแต่เขาเพิ่งจีบกัน กำลังจะถ่ายพรีเวดดิ้ง ควรทำผมอย่างนี้นะหน้าจะได้ดูไบร์ทแล้วก็ผมจะได้ดูสวย จนท้องแล้วเตรียมตัวนะตัดผมสั้นลง หลังคลอดมันจะได้ลดปริมาณการหลุดร่วงของเส้นผม เราวางแผนไปกับเขา ลูกค้าผู้ใหญ่เลย 60-70 เข้ามา ดัดผม ดูแลตัวเองก็ไม่ได้ ไปเมืองนอก จะไปหาร้านที่ยีผมพองๆ แบบนี้ก็หาไม่เป็น จนสุดท้ายแล้วค่อยๆปรับเขา ให้ความรู้กับเขาที่ละนิดๆ จนทุกวันนี้เขาก็ไม่ต้องดัด เขาก็ไปตัดผมสั้นซอยสวยๆไป เขาก็เป่าเองได้ดูแลเองได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าร้านเหมือนเดิม ชีวิตเขาก็สบายมากขึ้น มันก็เป็นอะไรอย่างหนึ่งที่เรารู้สึกดีใจ 7 ปีที่ผ่านมา เราว่าเราเรียนรู้เรื่องของลูกค้าเราแต่ละคนดี เพราะว่าเราฟังเยอะ เราพิจารณาเยอะ แล้วก็เราทำความเข้าใจเขาเยอะขึ้น"

 

สุดท้ายเขาฝากไปบอก “เด็กรุ่นใหม่” ที่อยากยึดอาชีพทำผม ที่ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ เพราะสิ่งที่ได้มาง่าย คุณต้องแลกด้วยความ “ไม่ยั่งยืน” 

“กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อะไรที่ดีที่สุด จริงๆ แต่กาลเวลาของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนกาลเวลาใช้เวลานานกว่าจะพิสูจน์ได้ บางคนใช้เวลาสั้นลง ถ้าเกิดว่าโชคดี ของผมผมก็ค่อยๆทำของผมมาโฟกัสที่งาน โฟกัสที่ลูกค้าทำงานเต็มที่ จริงใจกับคนรอบตัวเรา จนมันถึงจุดที่ตอนนี้คนที่เคยว่าผมทำอะไรไม่ได้ สิ่งที่เขาทำได้คือนั่งมองเรา เส้นทางนี้คุณจะต้องรักอาชีพจริงๆ อาชีพทำผมเป็นอาชีพที่คุณอยากจะมาตรงนี้ คุณต้องจริงใจกับอาชีพและซื่อสัตว์กับอาชีพ อาชีพช่างทำผมไม่ใช่อาชีพที่ปุบปับเข้ามาแล้วคุณจะดังข้ามคืน หรือใช้เวลาปีเดียวแล้วคุณจะรวยเละ มันไม่มีครับ มันใช้เวลา คุณต้องสร้างฐานลูกค้าจาก หนึ่งไปสองจากสองไปสาม "

“ถ้าคุณดังโดยการเอาเงินหว่านซื้อพีอาร์ ซื้อรายการ ให้จ้างคุณไปออกสัมภาษณ์คุณจะมาด้วยชื่อคุณ แต่คุณจะไม่อยู่ยาว เพราะฉนั้นค่อยๆมาค่อยๆเป็นค่อยๆไป สร้างฐานลูกค้าจากหนึ่งไปสองจากสองไปสาม บอกปากต่อปากกับเพื่อน ชวนพ่อแม่ครอบครัวมาทำ อันนี้ยั่งยืนกว่า” 

“คะแนนเต็ม 10 วันนี้คุณให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่” นี่คือคำถามสุดท้ายที่เราทิ้งไว้

"ผมว่า 6” เกินครึ่งมา 1 คะแนน เพราะเขารู้สึกว่าที่ผ่านมาเขาให้เวลากับครอบครัวน้อยเกินไป วันนี้ถึงจุดที่ก้องต้องหันมาดูแลคนในครอบครัว ให้เวลาเอาใจใส่ ใช้ชีวิตให้คุ้มค่ารวมถึงสุขภาพ เพราะไม่มีอะไรแน่นอน วันนี้มีความสุข พรุ่งนี้อาจไม่ใช่"

“ เด็กหลายๆคนที่พอเรียนจบจะโฟกัสกับเรื่องงานมีไฟกับเรื่องงานจนคุณภาพที่เราให้กับครอบครัวมันน้อยลง โดยที่เราไม่รู้ตัว แล้วก็สุขภาพเรา มีความสุขทุกวันที่เราทำงาน ผมไม่เคยมีวันไหนที่ผมทำงานแล้วผมไม่ความสุข แต่ผมแค่รู้สึกว่าผมอยากบอกทุกๆ คน จริงอยู่การทำงานสร้างความมั่นคงในอนาคต ดูแลคนที่เรารักเป็นสิ่งสำคัญ แต่การที่เราจะทำแบบนั้นได้อย่างยั่งยืนเราต้องดูแลตัวเราเองกับครอบครัวด้วย ทุกวันนี้มันยิ่งชัดมากขึ้น ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เรามีความสุขอยู่ดีๆ พรุ่งนี้เราอาจจะไม่มีความสุขก็ได้ มันเป็นอะไรที่เรารู้สึกเราอยากใช้ชีวิตทุกวันให้มีคุณค่ามากขึ้น นั่นคือสาเหตุที่ผมบอกว่าผมลอยตัวอยู่เหนือดราม่าทั้งหมด ตราบใดที่คนรอบตัวผมมีความสุข คนที่ผมรักมีความสุข ลูกน้องมีความสุข ลูกค้ามีความสุข อย่างอื่นผมไม่สนใจอะไรแล้ว”

เราเชื่อว่าหลังจากวันนี้ “ก้อง” ยังคงเป็นช่างทำผมที่เดินไปข้างหน้าอยู่ตลอดเวลา พัฒนาลูกน้องให้มีมาตรฐาน ไม่ต้องตัดผมให้ได้แบบก้อง ไฮฟ์ ซาลอน แต่ต้องมีจุดเด่น มีสไตล์เป็นของตัวเองให้ลูกค้าพอใจ นอกจากนี้ เขากำลังทำในสิ่งที่เขาถนัดอีกด้านคือ การพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้มีพื้นที่ในการแสดงตัวตนอย่างมีคุณภาพจริงๆ และงานแฟชั่นโชว์ล่าสุด "MILLENNIALS CHOICE 2019" ก็คืออีกหนึ่งคำตอบในอีกก้าวใหญ่ของ "ก้อง ไฮฟ์ ซาลอน"

ย้อนดู LIFE STORY ตอนอื่นๆ

ฉีกกฎ!!! ขนมเค้กปั้นยังไงให้เหมือนมีชิ้นเดียวในโลก กับเส้นทางชีวิตของ “ทีม วริษฐ์ จันทวิชานุวงษ์”

จาก"กาแฟรถเข็น"แก้วละ 40 บาท ไม่มีคนซื้อ แต่..."วันนี้ร้านไกลแค่ไหนก็ต้องไปลอง"

ไม่ธรรมดา!!!! อายุ 21 จบ ป.โท สายกฎหมาย ไขเคล็ดลับความเก่งจาก "น้ำเพชร"

มากกว่าฝันคือ ‘ลบคำสบประมาท’ ความในใจ “เล็ก The Voice”

“ยอมแลกเหงื่อ” เพื่อคำสัญญากับพ่อบนเส้นทาง “ลูกยาง” ของเด็กหนุ่มจากปากพนัง

คุยกับคนหัวใจโขน...หลังถอดหัวโขน

ถ้าไม่เป็นมะเร็งวันนั้น "ผู้หญิงคนนี้" อาจไม่ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองในวันนี้

ตามติดชีวิต“คู่หูห่อหมกฮวก” ผู้สร้างสีสันจนสะท้านเวที “The Voice 2018”

ล่าฝันไปตามจังหวะดนตรี บนเส้นทางนักเต้น กับ "ทราย นภัส รอดบุญ"

 

 

 

 

 

TOP สังคม
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ