นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ วิเคราะห์ว่า การเมืองหลังประกาศรับรองผล ส.ส. อาจมีผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคใหญ่ ถูกตัดสิทธิ์จากการตรวจสอบคำร้องทุจริตเลือกตั้งและคุณสมบัติ พร้อมแนะนำ กกต. ทำงานเชิงรุกในการอธิบายสังคม เพื่อป้องกันการเมืองบนท้องถนน ขณะที่การประชุมนัดพิเศษของ กกต. ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เร่งพิจารณารับรอง ส.ส. ให้ทันประกาศผลในวันที่ 7 และ 8 พฤษภาคมนี้
สำนักงานกกต. จัดพื้นที่โถงกลาง เป็นเวทีแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอย่างเป็นทางการ ในการประกาศรับรองผลเลือกตั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 7 และ 8 พฤษภาคมนี้ ขณะที่ช่วงเช้า คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประชุมนัดพิเศษ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่อเร่งพิจารณาผลการเลือกตั้งและกรณีข้อร้องเรียนต่างๆ รวมถึงคุณสมบัติ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ จากข้อกล่าวหาถือครองหุ้นบริษัทวีลัค-มีเดีย จำกัด ก่อนเดินทางกลับโดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงผลการประชุมใด ๆ ต่อสื่อมวลชน
นายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชำนาญการ สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า วิเคราะห์ว่าการรับรอง ส.ส. ร้อยละ 95 จะมีผู้สมัคร ส.ส. ที่มีเรื่องร้องเรียนทุจริตและคุณสมบัติ ประมาณ 25 คน ที่อาจไม่ได้รับการรับรองในรอบนี้ และมีบางส่วนที่ต้องไปร้องศาลฎีกาชี้ขาดคุณสมบัติในภายหลัง และไม่ว่ากรณีดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับพรรคการเมืองใด กกต. ควรอธิบายกับสังคม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อครหาช่วยเหลือพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล จนนำไปสู่การเมืองบนท้องถนน
ขณะที่นายวันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองหลังประกาศผลจะไม่มีความวุ่นวาย หรือ ความรุนแรง เพราะทุกพรรคจะให้ความสำคัญในการจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล พร้อมมองว่า ปัญหาการตรวจสอบคุณสมบัติ จะไม่ถูกนำมาขยายเป็นความขัดแย้ง หาก กกต. ดำเนินการกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม
ส่วนกรณีที่มีรัฐมนตรี บางคนลาออก เพื่อไปเป็น ส.ว. นายวันวิชิต วิเคราะห์ว่า จะเกิดขึ้นเฉพาะกระทรวงสำคัญ 4 – 5 กระทรวง โดยให้เจ้ากระทรวง ไปทำหน้าที่ตรวจสอบ กำกับติดตามการทำงาน เหมือนเป็นตัวแทน พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลชุดต่อไป
กกต.ยัน มีวิธีคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อยู่แล้ว
กกต. ประชุมนัดพิเศษ เร่งรับรองผล ส.ส.