หากย้อนดูที่มาของข้อครหาผลประโยชน์ทับซ้อนจะพบว่าเกิดจากการกฎหมายกำหนดให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช. เป็นผู้แต่งตั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาส.ว.
จากนั้น พล.อ.ประวิตร เลือก ส.ว.ทั้ง 250 คน ซึ่งมีกระแสข่าวว่ามีสนช.และอดีตรัฐมนตรีจำนวนหลายสิบคนลาออกเพื่อรอไปรับตำแหน่งส.ว. ส่วนงานแรกที่ส.ว.จะทำเมื่อได้รับตำแหน่ง คือการร่วมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีกับส.ส. ซึ่งมีพล.อ.ประยุทธ์ เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ และหากพล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ก็จะต้องเลือกคณะรัฐมนตรีอีก
เผยคนดัง"สนช.-สปช.-สปท."ติดโผ ส.ว.แต่งตั้ง
“ประยุทธ์” ระบุ 250 ส.ว. ไม่ใช่ต้นทุนกลับสู่ตำแหน่งนายกฯ
นายกฯ ยัน 15 รมต.ไปเป็น ส.ว.ไม่ใช่สืบทอดอำนาจ คสช.
ขั้นตอนและวิธีการเลือกส.ว.นี้ ถือว่าจะเป็นไปตามบทเฉพาะกาลในรัฐธรรมนูญปี 2560 และ คำถามพ่วงตอนทำประชามติ แต่ในมุมมองของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. มองว่า ส.ว.ที่มีแนวโน้มว่าจะร่วมลงมติให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ จะทำให้เพียงการส่งพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถรับประกันว่าจะดำรงตำแหน่งได้นานแค่ไหน
ความเห็นนี้ตรงข้ามกับนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตส.ว.ที่มองว่า ส.ว.ชุดนี้จะช่วยประคับประคองให้ประเทศไม่เกิดความวุ่นวายเหมือนในอดีต และแม้ว่าจะมีที่มาจากการแต่งตั้ง แต่ก็มีเพียง 250 คนเท่านั้น เมื่อเทียบกับกลุ่มส.ส.ที่แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย จะพบว่าพบว่ามีเสียงใกล้เคียงกัน จึงถือว่าทุกฝ่ายสามารถถ่วงดุลกันได้ นอกจากนี้หากพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อ ก็ไม่มีอำนาจตามมาตรา 44 แล้ว จึงถือว่ามีสิทธิเท่าเทียมกัน
สำหรับการประกาศรายชื่อส.ว.ตามกำหนดต้องประกาศภายใน 3 วันนับจากวันประกาศราชชื่อส.ส. ซึ่งหมายความว่า รายชื่อส.ว.ทั้ง 250 คน จะถูกเปิดเผยภายในวันพรุ่งนี้ (11 พ.ค.)
“ไพบูลย์” ชี้ช่อง ส.ว.สามารถร้องขอพิจารณา พ.ร.บ.งบฯ เองได้