สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจาก ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ให้เริ่มกระบวนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเกือบทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา หรือ เกือบ 10 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเริ่มบังคับใช้มาตรการปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 6 ล้านล้านบาท จาก 10 เปอร์เซ็นต์ เป็น 25 เปอร์เซ็นต์
โดยรายละเอียดการเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีรอบใหม่จะมีการเปิดเผยในวันจันทร์นี้ ซึ่งคาดว่ายังต้องใช้เวลานานอีกหลายเดือนกว่าที่อัตราภาษีนำเข้าใหม่กับสินค้าจีนที่เหลือจะมีผลบังคับใช้
ขณะที่การประชุมเจรจาแก้ปัญหาการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน รอบที่ 11 ในกรุงวอชิงตัน ได้ปิดฉากแล้วเมื่อวานนี้ (10 พ.ค.62) โดยยังไร้ข้อสรุปจากทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม หลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีน ในฐานะหัวหน้าทีมเจรจาของจีน ยืนยันว่า ทั้งสองฝ่ายจะเดินหน้าการพูดคุยต่อไป แม้จะมีการดำเนินนโยบายตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าระหว่างกัน