ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผู้บังคับหมู่ปราบปราม สถานีตำรวจภูธรกระพ้อ จ.ปัตตานี เดินทางเข้าให้ปากคำกับตำรวจภูธรหาดใหญ่เพิ่มเติม โดยพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบปากคำนานถึง 4 ชั่วโมง
ส.ต.ท.สัญลักษณ์ ให้ข้อมูลว่า เหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 อุ้มขึ้นรถไปพร้อมกับเพื่อนที่ไม่ได้เป็นตำรวจรวม 5 คน โดยนำ ไปกักขังไว้ที่บ้านหลังหนึ่งในอ.หาดใหญ่ และเรียกค่าไถ่ 5 แสนบาท แต่ต่อรองกันจนเหลือ 1 แสน 2 หมื่นบาท และต้องนำรถยนต์ส่วนตัวไปจำนำด้วย 1 คัน ก่อนถูกปล่อยตัวออกมาในวันที่ 27 มี.ค.
สั่งตั้งกก.สอบ"ตำรวจอุ้มตำรวจ" เรียกค่าไถ่ 5 แสนบาท
เบื้องต้น พนักงานงานสอบสวนจะเร่งสรุปคดีเพื่อเตรียมยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ป.ป.ช.ภายใน30 วัน เนื่องจากผู้ที่ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าพนักงานที่กระทำผิดไม่ใช่ประชาชน จึงต้องยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ ซึ่งมีหลักฐานสำคัญหลายอย่าง โดยเฉพาะข้อความที่คุยกันผ่านสื่อโซเชียล เรื่องรถยนต์ที่ถูกนำไปจำนำต่อให้กับผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งขณะนี้ได้ประสานงานไปยังตำรวจภูธรบางกล่ำ ไปยึดรถยนต์คันดังกล่าวกลับมาแล้ว เพราะเป็นรถยนต์ที่เกี่ยวข้องกับทางคดี
ส่วนกลุ่มตำรวจที่ถูกกล่าวหาขณะนี้รู้ตัวแล้ว โดยเป็นตำรวจทั้งชั้นประทวนและสัญญาบัตรรวม 3 นาย และอีกรายเป็นหญิงสาวที่ทำหน้าที่เป็นคนติดต่อประสานงาน และอ้างตัวว่า เป็นภรรยาตำรวจ แต่ทั้งหมดยังเก็บตัวเงียบไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ และอยู่ระหว่างการถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ซึ่งทาง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค9 ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุดและจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
เบื้องต้นกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรรวจภูธรภาค 9 (บก.สส.ภ.9) มีคำสั่งให้ ด.ต.ธีระยุทธ สุวรรณรัตน์ ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.ภ.9, ด.ต.สิรภพ หมื่นหนู ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.9 และ ด.ต.พิรัช หวันเส้ง ผบ.หมู่ กก.ปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.9 มาปฏิบัติราชการที่ศูนปฏิบัติการกองบังคับการสืบ สวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ศปก.บก.สส.ภ.9) พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่มีการให้ความช่วยเหลือหรือปกป้องผู้ที่กระความผิด
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำการสืบสวนขยายผล และจับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา ผบ.ตร.ได้กำชับและสั่งการมาโดยตลอดห้ามตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ ประพฤติผิดในทางมิชอบ แสวงหา หรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนแก่สังคม
