การดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมายกับรีสอร์ทนอกแปลงที่ดินราษฎรอาสาสมัคร (รอส.) และอยู่ในเขตป่าเขาค้อ ยังคงมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด นายชิต อินทรนก ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้เพชรบูรณ์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายปฏิบัติการแก้ไขการบุกรุกพื้นที่ป่าเขาค้อ เปิดเผยว่า ขณะนี้อธิบดีกรมป่าไม้ได้สั่งการผ่านผู้อำนวยการสำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลกให้รวบรวมหลักฐานในส่วนของรีสอร์ท 6 แห่งรายใหม่ที่บุกรุกป่า เพื่อเสนอให้บังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างโดยไม่ต้องรอคำตัดสินศาล
ส่วนประเด็นที่ตรวจสอบข้าราชการในพื้นที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับรีสอร์ทที่ทำผิดกฎหมายนั้นเจ้าหน้าที่ไม่หนักใจเพราะเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้ามาสอบสวนรวบรวมหลักฐานและส่งมอบให้พนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว
สำหรับการตรวจสอบที่พบข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับรีสอร์ททำผิดกฎหมาย บุกรุกป่านั้น แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มรีสอร์ทผู้ประกอบการนอกพื้นที่ จำนวน 29 ราย และกลุ่มคือกลุ่มรีสอร์ทใหม่ 6 ราย ซึ่งยังมีความกังวลว่าพยานหลักฐานที่รวบรวมได้นั้นจะแน่นหนาเพียงพอที่จะสาวไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่เพราะรีสอร์ทเหล่านี้มีการดำเนินการผ่านตัวแทนหรือที่เรียกว่านอมินี
ขณะที่ การดำเนินคดีกับรีสอร์ทอีก 358 แห่งที่อยู่นอกแปลงที่ดินราษฎรอาสาสมัคร (รอส.) และอยู่ในเขตป่าเขาค้อนั้น ในการประชุมคณะทำงานล่าสุดได้คัดกรองกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นรีสอร์ทของผู้ประกอบการที่เป็นคนนอกพื้นที่ จำนวน 29 ราย ที่จะต้องบังคับใช้กฎหมาย และอีก 2 รีสอร์ทที่ยินยอมรื้อสิ่งปลูกสร้างและคืนพื้นที่ แต่ยังไม่ดำเนินการตามข้อตกลง ทางคณะทำงานตึงต้องจับกุมดำเนินคดีเช่นกัน โดยกำหนดเริ่มปฏิบัติการระหว่างวันที่ 16-23 พ.ค.นี้ ส่วนที่เหลืออีก 327 ราย ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านและลูกหลานของราษฎรอาสาสมัคร ซึ่งคณะทำงานมีมติเสนอผู้บังคับบัญชาฝ่ายนโยบายพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไร
กรมป่าไม้ พบรีสอร์ตเขาค้อ ต่อเติม-ขยายเพิ่ม เป็นหลักฐานเอาผิดรุกป่าสงวนฯ
“ชุดพยัคฆ์ไพร” บุกจับรีสอร์ทเขาค้อบุกรุกพื้นที่ป่า
