เมื่อวันที่ (14 พ.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดตำรวจภูธร ภาค 9 ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง เรียกรับผลประโยชน์จากผู้อื่นเหตุ ทีมโฆษกตำรวจภูธรภาค 9 ออกใบแถลงความคืบหน้าคดีกับตำรวจจำนวน 4 นายและพลเรือน 1 คน ทั้งคดีอาญาและทางวินัยร้ายแรง ซึ่งการดำเนินการคดีนี้แยกเป็น 2 ประเด็นคือการดำเนินการคดีอาญา กับการดำเนินการทางวินัย โดยในส่วนของการดำเนินคดีอาญา ได้ดำเนินคดีอาญาข้าราชการตำรวจจำนวน 3 นาย พลเรือน1 คนในความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ และร่วมกันเรียกค่าไถ่
ส่วนการดำเนินการทางวินัย ได้ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการตำรวจจำนวน 4 นาย เป็นข้าราชการตำรวจ กองบังคับการสืบสวนภาค 9 จำนวน 3 นาย เป็นข้าราชการตำรวจ สภ.คอหงส์ จำนวน 1 นายในความผิดฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ
ทางด้าน นาง อุบล จันทร์ดำ อายุ48 ปี แม่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกอุ้มตัวไปเรียกค่าไถ และนาย รุ่งเกียร์ติ หนูพันธ์ อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหาย ที่โดนเจ้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บที่หัว และที่ปาก เดินทางเข้าพบ พนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและได้ดูรูปของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุและส่งเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพูดคุยทางแอปพลิเคชั่นไลน์