เมื่อวันที่ (15 พ.ค. 62) ศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานในยามวิกาล ทั่วประเทศเป็นคืนที่สอง หลังกระแสต่อต้านชาวมุสลิมทวีความรุนแรงเรื่อยๆ นับตั้งแต่เหตุฆ่าตัวตายโจมตีโบสถ์คริสต์ในวันอีสเตอร์ โดยมีการก่อจลาจล ทั้งจุดไฟเผาและทุบทำลายทรัพย์สิน ร้านค้า และมัสยิดของชาวมุลลิม ซึ่งจนขณะนี้ มีชาวมุสลิมเสียชีวิตแล้ว 1 คน เป็นชายวัย 45 ปี เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มชาวคริสต์รุมทำร้ายด้วยอาวุธมีคม ขณะที่ตำรวจศรีลังกาได้จับกุมผู้ก่อความวุ่นวายแล้ว 60 คน ซึ่งรวมถึงผู้นำกลุ่มชาวพุทธหัวขวาจัดกลุ่มหนึ่งด้วย
ด้านนายกรัฐมนตรี รานิล วิกรมสิงเห ของศรีลังกา ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดกับผู้ก่อความวุ่นวาย โดยมีรายงานว่า ตำรวจในบางพื้นที่ยิงปืนขึ้นฟ้า และใช้แก๊สน้ำตา เพื่อยับยั้งไม่ให้ชาวบ้านก่อเหตุรุนแรง
สำหรับเหตุความวุ่นวายระลอกนี้ เกิดขึ้นขณะที่ชาวมุสลิมกำลังอยู่ในช่วงถือศีลอดรอมฎอน ขณะที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า มีกลุ่มคนพยายามทำให้สถานการณ์บานปลายเป็นปัญหาด้านการเมืองและความมั่นคง