วันนี้ (22 พ.ค.62) นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เปิดเผยว่า ข้อความที่ส่งต่อกันทางสื่อออนไลน์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดเรื่องระยะเวลาการครอบครองกัญชาตามกฎหมาย โดยมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ระบุว่า ผู้มีความประสงค์แจ้งนิรโทษครอบครองกัญชาจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน คือระหว่างวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ถึง 21 พฤษภาคม ซึ่งผู้ป่วยที่แจ้งครอบครองกัญชาสามารถใช้ยากัญชาต่อเนื่องได้จนกว่าจะกัญชาใช้ในระบบการรักษา ซึ่ง อย.รับแจ้งให้ผู้ป่วยครอบครองต่อได้อีก 6 เดือน รับจากวันที่กฎหมายประกาศใช้ หรือ ประมาณ 3 เดือน หลังวันที่ 21 พฤษภาคม ไม่ใช่ 6 เดือน และหลังจากที่มียากัญชาที่ผลิตได้มาตรฐานและคุณภาพ รวมทั้งมีแพทย์แผนปัจจุบันและแพทย์แผนไทยที่ผ่านการอบรมการสั่งใช้ยากัญชาแล้ว จะทำให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในการรักษาที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขเผยแพร่ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการใช้สารสกัดกัญชานั้น ทางการแพทย์แผนปัจจุบันได้ใช้ในการดูแลรักษาและควบคุมอาการของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยวิธีมาตรฐานแล้วไม่ได้ผล ไม่แนะนำให้ใช้เป็นการรักษาเริ่มต้น โดยใช้รักษาใน 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.สารสกัดกัญชาได้ประโยชน์ในการรักษา ซึ่งมีข้อมูลทางวิชาการที่สนับสนุนชัดเจน ได้แก่ ภาวะคลื่นไส้อาเจียนในผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด โรคลมชักที่รักษายากและที่ดื้อต่อยารักษา ภาวะกล้ามเนื้อหดเกร็งในผู้ป่วยปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ภาวะปวดประสาทที่รักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล 2.สารสกัดกัญชาน่าจะได้ประโยชน์ในการควบคุมอาการ ซึ่งควรมีข้อมูลทางวิชาการที่สนับสนุนหรือการวิจัยเพิ่มเติม เช่น โรคพาร์กินสัน อัลไซเมอร์ โรควิตกกังวล โรคปลอกประสาทอักเสบ ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย เป็นต้น และ 3.สารสกัดกัญชาอาจมีประโยชน์ในการรักษา
ทั้งนี้แต่ยังขาดข้อมูลจากการวิจัยสนับสนุนที่ชัดเจนเพียงพอในด้านความปลอดภัยและประสิทธิผล ซึ่งต้องศึกษาวิจัยในหลอดทดลองและสัตว์ทดลองก่อนนำมาศึกษาวิจัยในมนุษย์ เช่น การรักษามะเร็ง และโรคอื่น ๆ