ในงานสัมมนา หลักสูตร “การประชุม สัมมนาผู้บริหารกรมสรรพากรทั่วราชอาณาจักร กลางปีงบประมาณ พ.ศ.2562” ที่จัดโดยกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง แก่ผู้บริหารระดับสูงของกรมสรรพากร เพื่อรับทราบนโนบาย ทิศทางในการบริหารและการจัดเก็บภาษีอากร โดยกลางปีงบประมาณ 2562 จะวิเคราะห์การจัดเก็บภาษีในครึ่งปีแรกและกำหนดกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร ได้กล่าวถึง ประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรในช่วง8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 คือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 ถึงพฤษภาคม 2562 กรมสรรพากร สามารถจัดเก็บภาษีสรรพากรได้จำนวน 1.22 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายตามเอกสารงบประมาณถึง 38,015 ล้านบาท โดยเป้าหมายการเก็บภาษีของกรมสรรพากร ตลอดปีงบประมาณ 2562 อยู่ที่ 2 ล้านล้านบาท ซึ่งกรมฯคาดว่าจะเก็บได้เกินกว่าเป้าหมายภายใต้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ
ส่วนสำคัญที่ทำให้กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาจากนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Drive ที่มีการนำระบบดิจิตอลระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือบิ๊กดาต้า และนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพองค์กรได้อย่างเข้มข้นอาทิ การเชื่อมโยงข้อมูล ค่าลดหย่อนภาษีกับหน่วยงานต่างๆ เช่น เบี้ยประกันสุขภาพ เงินสะสม กบข. และหน่วยรับบริจาคอิเล็กทรอนิกส์
ระยะต่อไป กรมสรรพากรโครงการเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Drive ต่อ เช่นการเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาร่วมทำ ระบบการเสียภาษีอากรแสตมป์สำหรับตราสารอิเล็คทรอนิกส์ การพัฒนาระบบการออกใบกำกับภาษี/ใบเสร็จภาษีอิเล็กทรอนิกส์ และการนำระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่มาตรวจจับพฤติกรรมการหลบเลี่ยงภาษีอากร รวมถึงเครือข่ายใบกำกับภาษีปลอมและการจัดตั้ง Tax innovation lab เพื่อศึกษาการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาให้บริการผู้เสียภาษีด้วย