อาวุธปืนอาก้า หรือ เอเค 47 จำนวน 16 กระบอก แม็กกาซีน จำนวน 129 อัน และน้ำมันทำความสะอาดปืน 18 กระปุก ทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ถูกนำใส่กระสอบปุ๋ย รวม 4 ถุง มาทิ้งไว้ในบ่อน้ำทิศใต้บ้านกระโงก ต.สะเดา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ โดยมีชาวบ้านลงไปอาบน้ำในบ่อ แล้วพบถุงปุ๋ยถูกทิ้งไว้ในลักษณะปากถุง โผล่จากน้ำเล็กน้อย มีท้ายปืนโผล่จากถุง สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบ เพื่อหาลายนิ้วมือแฝงของผู้ที่นำอาวุธมาทิ้ง และได้มีการสูบน้ำออกจากบ่อ ซึ่งขนาดไม่ใหญ่นัก เพื่อหาอาวุธ หรือหลักฐานอื่นที่อาจหลงเหลืออยู่ในบ่อน้ำ
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาวุธเหล่านี้เชื่อมโยงกับเครื่องกระสุนจำนวนมากที่พบมาตลอด 5 วันที่ผ่านมาในพื้นที่ ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
ส่วนหนองน้ำที่คนร้ายนำอาวุธมาทิ้ง เป็นเส้นทางบ้านกระโงก เชื่อมต่อกับห้วยตามอญ เข้าไปยัง เขต อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ และเดินทางต่อไปยัง อ.ขุขันธ์ และช่องทางผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้อีกหลายช่องทาง
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เชื่อว่า ปืนเอเค-47 จำนวน 16 กระบอก และอาวุธสงครามที่พบที่ จ.ศรีสะเกษ และ สุรินทร์ น่าจะมีความเชื่อมโยงกัน ส่วนประเด็นค้าอาวุธสงครามไม่ได้ตัดออก และการพบอาวุธเพิ่มเติมที่ จ.สุรินทร์ เกิดจากการขยายผลจาก จ.ศรีสะเกษ โดยล่าสุดอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด 19 ตัว ซึ่งขณะนี้มีกลุ่มที่ก่อเหตุในใจแล้วแต่ไม่สามาถเปิดเผยได้
สำหรับการพบอาวุธสงคราม จะไม่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ เพราะแสดงให้เห็นว่ามาตรการเข้มข้น และจะพิจารณาเบิกงบประมาณเพิ่มเพื่อจัดกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอีกเท่าตัว และวันนี้จะเดินทางไปติดตามคดีการพบอาวุธสงครามที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 หลังอาวุธที่พบทั้งสองแห่งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน
ผงะ! พบ “ระเบิด-กระสุนปืนสงคราม” อื้อ คาดกลุ่มค้าอาวุธนำมาซ่อน
กองทัพภาคที่ 2 เผย พบอาวุธสงครามศรีสะเกษ ไม่ชัดโยงการเมือง
“ศรีวราห์” สั่งตรวจกล้องหาที่มาอาวุธสงครามปริศนา ทิ้งเกลื่อนศรีสะเกษ