“สมาร์ทการ์ดรักษาโรค” ระบาดขอนแก่น อ้างแค่แตะตัว จุ่มน้ำดื่มก็หาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีข่าวถูกแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยระบุว่ามีบริษัทเอกชนรายหนึ่งเข้าไปโฆษณาชวนเชื่อให้ชาวบ้านหลายหมู่บ้านใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ให้ซื้อบัตรสมาร์ทการ์ดเพื่อรักษาโรคและสมัครเป็นสมาชิกเพื่อจะได้ใช้สิทธิขายบัตรสมาร์ทการ์ดดังกล่าวต่อ โดยทางบริษัทมีค่าคอมมิชชันเป็นค่าตอบแทนให้

“ทั้งนี้มีการระบุว่าบัตรสมาร์ทการ์ดสามารถใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกายได้ เพียงแค่นำบัตรไปแตะบริเวณที่ปวด หรือนำแก้วน้ำไปวางบนบัตร และนับ 1-10 จากนั้นให้ดื่มน้ำในแก้ว และอีกวิธีหนึ่งคือ การนำเอาบัตรไปจุ่มในแก้วน้ำแล้วนำมาดื่ม สามารถแก้อาการปวดให้ทุเลาลงได้ มีชาวบ้านหลงเชื่อมากกว่า 20 ราย พากันซื้อสมาร์ทการ์ดในราคาบัตรละ 1,100 ถึง 1,500 บาท”

พบเซลล์ขายน้ำสมุนไพรเลือกเป้าหมายเป็น “คนป่วย” หลังพบข้อมูลจากหลายหมู่บ้าน

นักวิชาการชี้แช่เท้าในประจุไฟฟ้าไม่ใช่วิธีรักษาโรค(คลิป)

โดยเมื่อผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านศาลาดิน ต.ศรีสุขสำราญ อ.อุบลรัตน์  ก็พบว่าเป็นเรื่องจริงโดย  นางทองศรี วงษ์ไชยเวทศ์ อายุ 66 ปี หนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่หลงเชื่อซื้อบัตรสมาร์ทการ์ด มาจากคนรู้จักกันในหมู่บ้าน  โดยระบุว่าซื้อมาในราคา ราคา 1,100 บาท

“ก่อนหน้านี้ตนมีอาการปวดหลัง และมีน้ำไหลออกมาจากหู เคยไปหาหมอที่โรงพยาบาลแล้วก็ไม่หาย เมื่อเขาเอาบัตรพลังงานนี้มาขายเลยตัดสินใจซื้อ คิดแต่ว่าลองใช้เผื่อหายจากโรค”นางทองศรีระบุ

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เฉลยบ่อน้ำดำศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนสีได้ ที่แท้เป็นปฏิกิริยาเคมี

นางทองศรียังกล่าวอีกว่า เมื่อได้บัตรมาแล้วนำไปแตะไว้ที่หลัง พบว่าอาการน้ำที่ไหลออกจากหูหายไป แต่ก็ได้รับประทานยาจากโรงพยาบาลที่ให้มาควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ ตนยังใช้วิธีวางแก้วน้ำไว้บนบัตรแล้วอธิษฐานให้หายจากโรค อาการเจ็บป่วยต่างๆ ก็ดูเหมือนทุเลาลง

“หลังจากฉันใช้บัตรพลังงานนี้แล้วอาการปวดหลังยังมีอยู่ แต่น้ำในหูไม่มีไหลออกมาแล้ว ส่วนตัวจากที่ได้ใช้บัตรก็เชื่อว่าบัตรสามารถช่วยแก้อาการเจ็บป่วยได้ 50 เปอร์เซ็นต์” นางทองศรีบอก

นายทวี เพียอินทร์ ชาวบ้านบ้านศาลาดิน และเป็นหนึ่งในกลุ่มชาวบ้านที่ถูกชักชวนเข้าอบรมในการใช้บัตรสมาร์ทการ์ด  เปิดเผยว่า เขาเรียกบัตรนี้ว่าบัตรพลังงาน เพราะสามารถใช้รักษาอาการปวดหลังได้ ก่อนจะได้บัตรนี้มามีพนักงานจากบริษัทแห่งหนึ่งมาชักชวนให้เข้าอบรม และบรรยายสรรพคุณของบัตรพร้อมกับสาธิตวิธีการใช้ให้ดู ระหว่างการสาธิต พนักงานคนเดียวกันได้นำบัตรมาแตะที่ตัวของเขา รู้สึกมีอาการชา แต่พอนำบัตรนั้นออกอาการชานั้นก็หายเป็นปลิดทิ้งและได้สมัครทันที

นายทวีระบุว่าการสมัครเป็นสมาชิกครั้งแรก เจ้าหน้าที่จะขอเลขที่บัญชีไปด้วย และได้จ่ายเงินไป 4,400 บาท ได้บัตรมา 5 ใบ หลังจากนั้นจึงนำมาบอกต่อให้กับเพื่อนบ้านที่สนใจ ขายในราคา 1,100-1,500 บาท แต่ละคนที่ซื้อไปเพราะเชื่อว่าบัตรนี้จะรักษาอาการปวดเมื่อยได้   และหากซื้อบัตรแล้วนำไปขายต่อให้คนอื่นๆ ได้ และเชิญชวนให้คนเข้ามาสมัครสมาชิกเพิ่ม ก็จะได้เงินเข้าบัญชีเพิ่มเพราะขายได้ทั้งบัตรและหาสมาชิกได้เพิ่ม

มีรายงานระบุว่า การซื้อขายบัตรสมาร์ทการ์ดหรือบัตรพลังงานดังกล่าวไม่ได้มีเฉพาะแต่หมู่บ้านศาลาดินเท่านั้น แต่ยังมีหมู่บ้านอื่นๆด้วย