ขอศาลออกหมายจับ 3 คน หัวหน้าวินฯเก่า - มือยิงพนักงานเคอรี่ ย่านอุดมสุข


โดย PPTV Online

เผยแพร่




กรณีเหตุการปะทะกันของวินรถจักรยานยนต์ย่านอุดมสุข จนมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นพนักงานส่งของของบริษัทเคอรี่ 1 คน และเป็นวินรถจักรยานยนต์คู่ขัดแย้งอีก 1 คน จนถึงขณะนี้ ตำรวจ สน.บางนา สอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วมากกว่า 10 ปาก และมีข้อมูลว่า กลุ่มวินที่อยู่มาก่อนมีรูปแบบเตรียมการนำอาวุธเข้ามาก่อเหตุ

วันนี้ ( 16 มิ.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 5 และตำรวจ สน.บางนา ประชุมเครียดในห้องสืบสวนเพื่อหามือลั่นไกในกลุ่มวินจักรยานยนต์ ที่ปะทะกันในย่านอุดมสุข โดยเริ่มประชุมกันตั้งแต่เมื่อวานนี้ (15 มิ.ย.62) เวลา 18.30 น. และนำตัววินจักรยานยนต์คู่อริทั้งสองฝั่งเข้าไปในห้องเพื่อสอบปากคำมากกว่า 10 คนแล้ว

“วินอุดมสุข” สุดเถื่อน ปิดถนนตีกัน กระสุนลูกหลงเจาะหัวพนักงานเคอร์รี ดับอนาถ

ล่าสุดตำรวจกำลังขอศาลจังหวัดพระโขนงอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 3 คน เป็นฝั่งวินเก่า ที่ตั้งอยู่ซอยอุดมสุข 1 คือ นายประมุข วิเชียรดิลกุล หัวหน้าวิน นายรังสรรค์ ศรไชยากร คนยิงช่วงตะลุมบอนจนลูกหลงไปถูกพนักงานบริษัทขนส่งเคอร์รี่เสียชีวิต และนายจีระพงษ์ วิบูลย์รัชกิจ หรือเบส ใน 4 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่น ทำร้ายร่างกาย พกอาวุธ และมั่วสุมเกิน 10 คน ขึ้นไป ก่อความวุ่นวายโดยใช้กำลังประทุษร้าย ทำให้เสียทรัพย์

ขนส่ง เผยชื่อวินฯวิวาทย่านอุดมสุข เร่งผสาน ตร.ติดตามผู้ก่อเหตุ

โดยการสอบปากคำนี้ มีแต่กลุ่มวินใหม่เข้าให้ข้อมูล ระบุว่า ต้นตอขอเรื่องเกิดจากกลุ่มวินใหม่ ตั้งขึ้นมาประมาสองปีกว่า หน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นทางลงสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ไม่มีหัวหน้าวิน และยังเป็นวินเถื่อน ทำให้นายประมุข หัวหน้ากลุ่มวินเก่าที่เป็นวินเถื่อนเช่นกัน ตั้งอยู่ซอยอุดมสุข 1 ห่างกันไม่เกิน 100 เมตร รู้สึกเสียรายได้จึงอยากครอบครองกลุ่มวินใหม่ จนทะเลาะวิวาทกันมาแล้วหนึ่งครั้ง และครั้งนี้พบฝ่ายวินเก่าเตรียมการที่จะก่อเหตุ ใช้รถตู้ในการขนกระบองยาว มีจุดนัดแจกจ่ายอาวุธ และวางแผนดักกลุ่มวินใหม่ ลักษณะปิดประตูตีแมว

นอกจากนี้มีข้อมูลว่า ในช่วงเช้าวันนี้ฝ่ายวินเจ้าถิ่นเดิม เรียกคนขับวินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์มาพบ ให้ถอดเสื้อวิน ก่อนถ่ายรูปบัตรประชาชน จากนั้นคนขับวินหน้าธนาคารไปบอกหัวหน้าวิน ก่อนทั้ง 2 ฝ่าย จะยกพวกตีกัน จนเหตุการณ์บานปลาย เพราะมีการใช้อาวุธปืน

นายกฤตธน ศรีบุญมี หนึ่งในวินรถจักรยานยนต์รับจ้างกลุ่มที่ตั้งวินใหม่และเป็นผู้บาดเจ็บ ยอมรับว่า วินที่ขัยรถจักรยานยนต์รับจ้างอยู่เป็นวินที่ไม่ถูกต้อง และมีปัญหาขัดแย้งกับวินเก่ามาประมาณ 1 ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงแรกที่ก่อตั้งวินขึ้นมาใกล้เคียงกับวินเดิม แต่ไม่เคยไม่เคยมีความขัดแย้งกันรุนแรงเช่นครั้งนี้ โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการนัดเจรจากัน แต่ฝ่ายตรงข้ามเข้ามาห้ามให้วินใหม่หยุดวิ่ง จึงนำพวกพ้องไปเจรจา ก่อนจะถูกไล่ทำร้ายกลับมา

ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า กลุ่มวินรถจักรยานยนต์ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มวินเจ้าถิ่น ปะทะกับกลุ่มวินที่มาตั้งอยู่บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งตั้งขึ้นใหม่ประมาณ 1-2 ปี โดยก่อนจะเริ่มตะลุมบอนที่หน้าตลาดอุดมสุข วินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ยกพวกไปหน้าวินเก่า หลังจากอ้างว่าถูกคู่อริถูกปิดวิน ก่อนที่วินชุดหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ จะวิ่งกลับเข้ามาในซอย และตะโกนบอกให้คนในซอยปิดประตูบ้าน โดยมีวินเจ้าถิ่นจะวิ่งตามมาพร้อมอาวุธ และได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด ซึ่งขณะเกิดเหตุมีชาวบ้านเดินอยู่ในซอย และคนที่มากินข้าวที่ร้านอาหารจำนวนมาก หลังจากเกิดเหตุกลุ่มวินจักรยานยนต์เจ้าถิ่น พยายามปิดล้อมฝ่ายคู่อริ จนกระทั่งตำรวจมาถึง ก็ยังไม่สามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ ก่อนที่วินเจ้าถิ่นเดิมจะหลบหนีไป

ทั้งนี้หลังการปะทะ พบผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 คน คือ นายวีระวัฒน์ พึ่งครุฑ เป็นพนักงานส่งสินค้าของบริษัทเคอร์รี่ คาดว่าถูกลูกหลงระหว่างนำข้าวกลับมาให้ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ 4 เดือน ในซอยจุดเกิดเหตุ โดยเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย เล่าว่า ผู้ตายจะนำข้าวมาส่งให้ภรรยาทุกวันในช่วงเที่ยง ซึ่งเป็นช่วงพักระหว่างส่งของให้ลูกค้า แต่วันนี้กลับมาช่วงเวลาเดียวกันที่กำลังเกิดเหตุ จึงถูกลูกหลง และล่าสุด ตำรวจยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 คน เป็นสมาชิกกลุ่มวินหน้าธนาคารไทยพาณิชย์

หนุ่มเคอร์รี่ เหยื่อลูกหลงแก๊งวินฯอุดมสุข กำลังเอาข้าวไปส่งให้เมียที่กำลังท้อง 4 เดือน

นางแดง จิตร์กระแส แม่ของนายวีระวัฒน์ พนักงานเคอรี่ที่เสียชีวิตไปต่อหน้า เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีชายฉกรรจ์ ซึ่งส่วนใหญ่ใส่เสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้างจำนวนมาก วิ่งกรูกันเข้ามาภายในซอย จากนั้นมีเสียงปืนดังขึ้น จึงเกรงว่ารถจักรยานยนต์จะได้รับความเสียหาย จึงเรียกให้ลูกชายออกมาเคลื่อนย้ายรถ และระหว่างที่ลูกชายวิ่งออกมาขวางหน้าของเธอ มีเสียงปืนดังขึ้นอีก ทำให้นายวีระวัฒน์ ล้มลงไปต่อหน้าต่อหน้า พร้อมเรียกร้องให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อยืนยันว่า ลูกชายที่เสียชีวิต ไม่ได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์วิวาทครั้งนี้

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมเปิดเผยว่า ทราบตัวผู้ก่อเหตุบางคนแล้ว อยู่ระหว่างออกหมายจับมากกว่า 10 คน โดยพบหลักฐานเป็นปลอกกระสุนปืน 2 ชนิด ไม้ลักษณะกระบองยาวหลายแท่ง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุยังไม่พบ พร้อมยืนยันว่าต้นเหตุของการยกพวกตีกัน มาจากการแย่งลูกค้า และสอบสวนทราบว่า วินทั้ง 2 แห่ง ตั้งขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ