วันนี้ 24 มิ.ย. 2562 นายอมร วาณิชวิวัฒน์ หนึ่งในอดีตกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยกับพีพีทีวี ถึงแนวทางที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับพิจารณากรณี ส.ส.กว่า 40 คน เข้าข่ายถือหุ้นกิจการสื่อมวลชนหรือไม่
โดยนายอมร อธิบายแนวทางการพิจารณาของศาลว่า ไม่มีเกณฑ์ต้องนำคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ที่ระบุว่า นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร เขต2 พรรคอนาคตใหม่ ขาดคุณสมบัติเป็นผู้สมัคร ส.ส. มาใช้เป็นบรรทัดฐาน เชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาจากเจตนาในการดำเนินการทางธุรกิจ และหากรับไต่สวน ศาลรัฐธรรมนูญก็จะเรียกดูเอกสารการประกอบธุรกิจว่ามีรายได้จากกิจการสื่อหรือไม่
นายอมร บอกอีกว่า มาตรา 98 (3) ห้ามผู้สมัคร ส.ส.ถือหุ้นสื่อมวลชน ที่ร่างขึ้นมา มีเจตนารมณ์เพื่อป้องกันการใช้ประโยชน์จากสื่อโดยฝ่ายการเมือง เพราะมีบทเรียนจากอดีตแล้ว เชื่อว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มีการยื่นตรวจสอบ
นายอมร บอกอีกว่า รัฐธรรมนูญไม่ได้มีปัญหา แต่ที่ฝ่ายการเมืองนำมาร้องเรียนกัน เพราะชิงความได้เปรียบของเกมในสภาฯ หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยออกมาแล้วก็จะเป็นบรรทัดฐานต่อไป แต่หากบางฝ่ายอาจมองว่าทำให้การเมืองวุ่นวาย ฝ่ายการเมืองจะต้องเป็นผู้แก้ไข
สำหรับเส้นทางการยื่นสอบ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.สกลนครพรรคอนาคตใหม่ ถือหุ้นสื่อฯ ขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. เริ่มจาก ผอ.การเลือกตั้งประจําเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัดสกลนคร ร้องสอบนายภูเบศวร์ เพราะมีการตรวจสอบพบจากเอกสารในการยื่นสมัคร ส.ส. ว่าขาดคุณสมบัติ จนวันที่ 19 มี.ค. ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งถอนชื่อ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ออกจากการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.
ส่วนเส้นทางการร้องถือหุ้นสื่อของส.ส.กว่า 40 คน ในขั้วของพรรครัฐบาล , พรรคอนาคตใหม่ยื่นหนังสือต่อ นาย ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งนายชวนรับคำร้องและส่งศาลรัฐธรรมนูญ
“เรืองไกร” ร้อง กกต.สอบ ว่าที่ ส.ส. พปชร.ราชบุรี ถือหุ้นสื่อ
“ชวน” เซ็นส่งเรื่องไปศาล รธน. ตรวจสอบ 41ส.ส. ถือหุ้นสื่อแล้ว
ร้องกกต.สอบ"อนุทิน-ณัฏฐพล"ถือหุ้นสื่อเหมือน"ธนาธร"
