พล.ต.ท. พรหมธร ภาคอัต ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้า ของคดี ส่งยาเสพติดทางไปรษณีย์ ซึ่งมี พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือ “สารวัตรแย้ เข้าไปเกี่ยวข้องว่า ขณะนี้ได้กำชับให้ตำรวจเร่งติดตามหาตัว นายไบเล่ย์ ตามที่นายอนุศักดิ์ มิ่งเมือง ผู้ต้องหา ให้การซัดทอด แต่ข้อมูลที่ได้รับ พบว่า นายไบเล่ย์ ไม่ได้อยู่ในจ.พิษณุโลก
ส่วนกรณีที่มีหลักฐานว่า สารวัตรแย้เข้าไปอยู่ในกลุ่มไลน์ขบวนการค้ายาเสพติด ขณะนี้กำลังให้ตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากสารวัตรแย้มีหลักฐานมาหักล้างก็สามารถนำมาแสดงได้ โดยคดีนี้จะไม่มีละเว้นหากพบว่า ตำรวจเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
ด้าน พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 กล่าวว่า จากรายงาน พบว่า คนชื่อ “ไบเล่ย์” มีตัวตนจริง เป็นพ่อค้ายาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างซึ่งจะต้องตรวจสอบและขยายผลอีกครั้ง และในวันพรุ่งนี้ (28 มิ.ย.2562) ตำรวจภูธรภาค 6 ที่รับผิดชอบคดีนี้ จะประชุมร่วมกับ ป.ป.ส.ภาค 6 เพื่อหาแนวทางในการสรุปสำนวนคดีอีกครั้ง
ขณะที่ ตำรวจภูธรสตึก จ.บุรีรัมย์ คุมตัว นายอนุศักดิ์ มิ่งเมือง และภรรยา ผู้ต้องหาคดีส่งกล่องพัสดุซึ่งภายในบรรจุยาไอซ์ 50 กรัม และยาอี อีกกว่า 50 เม็ด ผ่านที่ทำการไปรษณีย์สตึก ให้กับ พ.ต.ท.พิเชษฐ เสาแบน หรือสารวัตรแย้ ที่บ้าน จ.นครสวรรค์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์แล้ว ซึ่ง นายอนุศักดิ์ ผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียดและไม่ให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อ
นายอนุศักดิ์ และภรรยา ถูกแจ้งข้อหาเดียวคือ “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ยังไม่ได้แจ้งข้อหาอื่นเพิ่มเติม ส่วนความคืบหน้าทางคดี อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อประกอบสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการตามขั้นตอน
เปิดสองเหตุผลชี้ “สารวัตรแย้” อาจไม่เกี่ยวยาเสพติด
ย้อนรอยพัสดุซุกยาเสพติดส่งถึงบ้าน “สารวัตรแย้”
วงจรปิด เผยภาพคนส่งพัสดุไปรษณีย์ให้ “สารวัตรแย้”
จับแล้ว!คนส่งยาให้ “สารวัตรแย้” อ้างไม่รู้เป็นตร. รับ ยาถูกส่งมาจากพิษณุโลก
