เมื่อวันที่ (28 มิ.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผักคะน้า พริก และผักกวางตุ้ง คือตัวอย่าง 3 ชนิด ที่นำมาตรวจสารพิษตกค้างผ่านชุดตรวจสอบเบื้องต้น เพื่อหาว่ามีสารพิษตกค้างหรือไม่ โดยขอบเขตของชุดตรวจนี้จะสามารถบอกได้แค่ มียาฆ่าแมลงกลุ่มยับยั้งเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส ปนเปื้อนหรือไม่ ผลจากการตรวจด้วยวิธีเบื้องต้นนี้ตัวอย่างออกมาเป็นสีส้ม หมายความว่าอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย
ทีมข่าวสำรวจความเห็นทั้งจากประชาชนในฐานะผู้บริโภค และ ผู้ค้าขายผักในตลาดที่ถือเป็นปลายทางก่อนถึงมือประชาชน น่าสนใจว่าทั้งผู้ค้าและผู้ซื้อ ทราบดีว่าผักที่ขายอยู่บนแผงปนเปื้อนสารเคมี และมีสารเคมีตกค้าง แต่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะพฤติกรรมการบริโภคของประชาชนที่ต้องการผักสดใหม่ สภาพสวย ส่งผลให้ผู้ค้าต้องหาผักตามความต้องการผู้ซื้อ
เจ้าของแผงผักในตลาดสดย่านห้วยขวาง ให้ข้อมูลว่า ความต้องการซื้อผักของประชาชนจำนวนมาก ทำให้ผักที่ใช้สารเคมีถูกนำมาขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะหาซื้อง่าย มีพอต่อความต้องการของตลาด ขณะที่ผักปลอดสารเคมี มีไม่มาก และไม่ทันต่อการผลิต ทางเลือกนี้จึงกลายเป็นข้อจำกัดของผู้ค้า
ข้อมูลจากเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช พบว่าการตรวจสารเคมีตกค้างในผัก-ผลไม้ ปี 2562 จากตัวอย่าง 286 ตัวอย่าง พบว่าผัก-ผลไม้นำเข้ามีสารเคมีตกค้าง 33.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผักที่ผลิตในประเทศ มีสารพิษตกข้างเกินค่ามาตรฐานอยู่ที่ 48.7 เปอร์เซนต์ สถานณ์การณ์เช่นนี้สะท้อนให้เห็นว่า มาตรฐานการควบคุมการใช้สารเคมีในประเทศยังมีปัญหา