เมื่อวันที่ (1 ก.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามแผนจำหน่ายของผู้ค้ารายย่อยหลายแห่ง ตามจุดต่างๆ ทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ เป็นไปอย่างเงียบเหงา ทั้งที่เป็นวันออกสลากกินแบ่งรัฐบาล สลากกินแบ่งรัฐบาลยังคงเหลือวางขายเต็มแผงแทบทุกเจ้า ขณะที่ราคาจำหน่ายนั้นพบว่ามีทั้งที่ขายตามราคาที่กำหนดใบละ 80 บาท และที่จำหน่ายเกินราคาในกลุ่มที่เป็นหวยชุด
นอกจากนี้พบว่าคนขายสลากกินแบ่งรายย่อยที่ปกติเคยตั้งแผงขายหลายรายต้องเลิกการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้ยอดขายตกต่ำ รวมทั้งปัญหาต้นทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่รับมาจากยี่ปั๊วสูงเกินกว่าราคากำหนด 80 บาท ทำให้ต้องขายเกินราคาและเมื่อเหลือไม่สามารถคืนได้ ต้องแบกรับภาระขาดทุนต่อเนื่อง
โดยกตัวอย่าง เช่น งวดวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ต้นทุนจากยี่ปั๊ว สลากอยู่ที่ใบละ 78-80 บาท , สลากชุด 2 ใบอยู่ที่ใบละ 85 บาท และสลากชุด 5-10 ใบอยู่ที่ใบละ 90-100 บาท เป็นต้น ซึ่งสลากที่ซื้อมาจากยี่ปั๊วนั้น เมื่อรับมาขายแล้วไม่สามารถคืนได้ทุกกรณี เมื่อประกอบกับช่วงนี้ที่ยอดขายซบเซาและเหลือสลากทุกงวดๆ ละเป็นจำนวนมาก ทำให้คนขายรายย่อยหลายรายขาดทุนสะสมต่อเนื่อง
สำหรับกรณีที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลและรัฐบาลเตรียมทำการศึกษาออกหวยออนไลน์และหวยรูปแบบใหม่ โดยระบุว่าเพื่อแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งเกินราคานั้น คนขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย แสดงความเห็นว่า หากต้องการแก้ไขปัญหาการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคานั้น ทำได้ง่ายมาก เพียงแค่จัดสรรสลากให้ถึงมือคนขายสลากรายย่อยที่เป็นคนขายจริงๆ ให้ได้โดยตรงหรือจัดการตั้งแต่ต้นตอกับยี่ปั๊ว ส่วนการออกหวยออนไลน์และหวยรูปแบบใหม่นั้น มองว่าเป็นคนละเรื่องกัน และดูขัดแย้งกับการที่บอกว่าการพนันเป็นการมอมเมาประชาชนและตัวอย่างไม่ดีแก่เยาวชน แต่ให้เหตุผลตามตรงว่าต้องการหาเงินรายได้เข้ารัฐก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้
