นางเอ นามสมมติ อายุ 43 ปี พร้อม น.ส.บี นามสมมติ อายุ 19 ปี ลูกสาว เดินทางมาพบ พ.ต.ท.บำรุง แนบชิดชัย รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมและชี้ภาพผู้ก่อเหตุ ที่ ข่มขืน และข่มขู่ ลูกสาว โดยเหตุเกิดเมื่อเดือนมีนาคม ถึง มิถุนายน 4 ครั้งติดต่อกัน เพื่อรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับ
นางสาว บี เปิดเผยว่า ตนเรียนจบเพียงชั้น ม.6 เมื่อเดือนมกราคม ปี 2562 ที่ผ่านมา จากนั้น ตนได้มาสมัครเข้าทำงานที่ห้างขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง และจะต้องทดลองงาน เป็นเวลา 5 เดือน แต่พอเข้าช่วงเดือนที่ 3 หัวหน้าแผนกเครื่องมือช่าง ได้เข้ามาพูดจาตีสนิท ในเชิงชู้สาว จับเนื้อต้องตัว
ต่อมาเดือนมีนาคม ตนมีรายชื่อถูกประเมินไม่ผ่านการทดลองงาน หัวหน้าแผนก จึงพูดกับตนว่า ถ้าหากต้องการผ่านการทดลองงาน ให้ขึ้นไปคุยกันที่รถ เมื่อตนขึ้นรถแล้วขับออกไปจากห้าง และไปจอดที่สวนสาธารณะ ห่างจากที่ทำงานประมาณ 1 กิโลเมตร ก่อนจะบังคับ ข่มขู่ อนาจาร จนสำเร็จความใคร่
จากนั้นเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นซ้ำ จนครั้งที่ 3 และ ครั้งที่ 4 หัวหน้าแผนกบังคับข่มขืน และข่มขู่ว่าหากตนไม่ยอม จะนำคลิปลับออกมาประจาน ทำให้ตนอับอาย และจะให้นักเลงมารุมทำร้าย ดำเนินการให้ตนออกจากงาน หรือ ตามฆ่าตน เมื่อกลับไปบ้านจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้แม่ฟัง แล้วให้แม่พามาแจ้งความ เพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด
น.ส.บี เปิดเผยอีกว่า หัวหน้าแผนกยังมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศกับพนักงานหญิงในแผนก โดยใช้ตำแหน่งหัวหน้า ในการพิจารณาให้ผ่านการทดลองงาน หรือให้ออกจากงาน ทำให้ทุกคนต้องยอม บางคนให้ทำงานต่อ 1 เดือน จากนั้นก็บีบให้ลาออก บางรายถูกกลุ่มคนสนิทหัวหน้าแผนกพูดจาดูถูก เหยียดหยาม จนต้องลาออกจากงาน หรือถ้าใครมายุ่งเรื่องนี้ก็จะให้ออกจากงาน
ทั้งนี้ ทางครอบครัวได้มีการปรึกษามูลนิธิ ปวีณา ซึ่งได้แนะนำให้เข้าแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุด ซึ่งเบื้องตน ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ได้ส่งตัว นางสาว บี ไปตรวจที่โรงพยาบาล และไปตรวจที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานแล้ว ระหว่างรอผล ก่อนดำเนินการต่อไป
ขณะที่ สำนักงานแรงงานและสวัสดิการ จ.อุดรธานี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อุดรธานี ให้คำแนะนำช่วยเหลือ ให้นางสาวบี ลาออกจากงาน เพื่อจะดำเนินคดีกับหัวหน้าแผนก จนถึงที่สุด