จากรณีที่พบลูกพะยูนที่พลัดหลงกับแม่และเกยตื้นในพื้นที่จังหวัดกระบี่ สรุปขณะนี้ทีมสัตวแพทย์กลุ่มสัตว์ทะเลหายากต้องดูแลลูกพะยูนทั้งหมด 2 ตัว คือ มาเรียมและ ยามีล ขณะที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเปิดเผยว่า ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีลูกพะยูนพลัด หลงกับแม่และเกยตื้นถึง 3 ตัวแล้ว
โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเปิดเผยข้อมูลนี้ ในงานแถลงข่าวเนื่องในโอกาสสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ราชกัญญา ทรงรับมาเรียมและยามีลไว้ในโครงการอนุรักษ์ในพระดำริฯ
“เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ” ทรงรับพะยูนน้อย 2 ตัว ไว้ในพระอุปถัมภ์
พบพะยูนน้อย หลงฝูงเกยตื้นอีก 1 ตัว
"มาเรียม"ปรับตัวได้ตื่นทันน้ำลง ไม่เกยตื้นแล้ว!
โดยลูกพะยูนตัวแรกที่พบคือ มาเรียม อายุประมาณ 6 เดือน พบเมื่อวันที่ 26 เมษายน บริเวณท่าเรือโกเต็ก บ้านคลองม่วง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ก่อนเจ้าหน้าที่จะย้ายมาอนุบาลที่เกาะลิบง จังหวัดตรัง
ตัวที่สอง เป็นลูกพะยูนเพศผู้ อายุประมาณ 3 เดือน พบเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ตายเกยตื้น ที่บริเวณเกาะเม็ง ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง คาดเสียชีวิตฉับพลัน มีร่องรอยของเชือกรัดที่ข้อหาง
ตัวที่ 3 ยามีล ลูกพะยูนเพศผู้อายุประมาณ 3 เดือน ถูกพบเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขึ้นมาเกยตื้นบริเวณชายหาดบ้านบ่อม่วง ตำบลทรายขาว อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ชาวบ้านไปพบจึงแจ้งสัตวแพทย์มาช่วยเหลือ นำตัวไปรักษาต่อที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทางทะเลและชายฝั่ง จังหวัดภูเก็ต
กรมทรัพยากรทางทะเลฯเผยสถานการณ์สัตว์ทะเลหายากตายมากสุดจากเครื่องมือประมง
ชาวบ้านเกาะลิบง ช่วยเหลือพะยูนเกยตื้นลงสู่ทะเล
ลูกพะยูนทั้งสามตัวถูกพบในแนวน่านน้ำเดียวกัน ในช่วงระยะทาง 60 กิโลเมตร เบื้องต้นทีมวิจัยและสัตวแพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุของการพลัดหลงจากฝูงของลูกพะยูน เพราะตามปกติ ลูกพะยูนจะอยู่ติดแม่พะยูนจนกว่า อายุจะครบ 1 ปี แต่ทั้ง 3 ตัวอายุยังไม่ครบ1 ปี และลักษณะที่เหมือนกันคือ ทั้งมาเรียมและยามีล มีร่องรอยบาดแผลบนหลังที่คล้ายรอยข่วน เป็นไปได้ว่าอาจถูกเขี้ยวของพะยูนโต หรืออาจถูกหินบาด