กรณีเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ANTI SOTUS” โพสต์เรื่องราวของ นายจู้ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ถูกรุ่นพี่รับน้องโหดจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ต้องหามส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่ช่วงเที่ยงคืนวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่ 4 ต.วัดสำโรง อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม แต่ผ่านมาหลายวันยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบทางครอบครัวจึงต้องออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวเมื่อวันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปโรงพยาบาลนครปฐม พบกับพี่สาวเหยื่อ โดยได้รับการเปิดเผยว่าน้องชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และเพิ่งถูกรุ่นพี่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังเกิดเหตุพยายามถามหาข้อเท็จจริงกับเพื่อน ๆ ของน้องชาย จนทราบว่าวันเกิดเหตุรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน ได้นัดให้น้องชายไปรับสร้อยข้อมือ (เลส) ซึ่งมีสัญลักษณ์ของสถาบัน
พี่สาวเหยื่อเล่าต่อว่า เมื่อไปถึงทราบว่ามีการจับคู่ เพื่อทดสอบร่างกาย แต่ไม่ทราบว่ารุนแรงแค่ไหนน้องชายถึงกับหมดสติ ต้องหามส่งโรงพยาบาลทันที ปรากฏว่าน้องมีอาการหยุดหายใจแพทย์ต้องเร่งช่วยเหลือรีบปั้มหัวใจถึง 3 รอบตอนนั้นรุ่นพี่ที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามบอกแค่ว่าน้องถูกชายฉกรรจ์ 4คนร่วมกันรุมทำร้าย ทั้งที่ในข้อเท็จจริงสภาพร่างกายและเสื้อผ้าของน้องไม่สอดคล้องกับการถูกรุมทำร้ายเลย
“หลังเกิดเหตุพยายามเค้นถามบรรดาเพื่อนของน้องจนทราบว่าน้องถูกกลุ่มรุ่นพี่ร่วมกันทำรุนแรงระหว่างการรับน้องอย่างโหดร้าย ที่สำคัญมีบางคนเป็นลูกของข้าราชการตำรวจและหลังเกิดเหตุก็ยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ จึงต้องนำเรื่องของน้องไปเผยแพร่ในโลกโซเซียลฯดังกล่าว เพื่อเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” พี่สาวเหยื่อรับน้องโหดกล่าว
ด้าน นายธีร์ ภวังคนันท์ นักพัฒนาระบบเครือข่ายและการมีส่วนร่วม ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือเด็กนักเรียนพร้อมคณะร่วมเดินทางไปโรงพยาบาลนครปฐม เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีการสอบถามทางโรงเรียนและพูดคุยกับผู้ปกครองของผู้ได้รับบาดเจ็บจนพอสรุปได้ว่าไม่ใช่เหตุการณ์รับน้องตามที่หลายคนเข้าใจผิด เนื่องจากนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บถูกรุ่นพี่ชวนกันไปกินข้าวที่บ้านเพื่อแลกกับสร้อยข้อมือ (เลส) ที่มีลักลักษณ์ขอสถาบัน แต่ต้องมีการออกแรงกันบ้างเล็กน้อยตามประสาเด็กผู้ตายบังเอิญพลาดยกเท้าไปเตะเข้ากลางอก ทำให้ผู้บาดเจ็บหายใจไม่ออกทุกคนกลัวจะถูกผู้ปกครองตำนิ จึงสร้างเรื่องว่าถูกคนอื่นทำร้ายพร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ทางโรงเรียน ทำบันทึกข้อมูลที่เกิดขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก
ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่าคดีนี้ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ วาดแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป และได้สอบถามพยานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นแล้ว โดยจะมีการสอบสวนปากคำพยานอย่างละเอียดร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และพนักงานอัยการ ขณะที่ ผกก.สภ.นครชัยศรีได้ตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดี อยู่ระหว่างดำเนินการเรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา และนำตัวไปขอให้ศาลสั่งควบคุมตามกฎหมายเยาวชนฯ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์บาดแผลของแพทย์ รพ.นครปฐม นำมาประกอบสำนวนการสอบสวน
