ครอบครัวนางสาววิลาวัณย์ พุ่มมาลา หรือน้องลิ้นจี่ ที่ถูกรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ชน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะข้ามทางม้าลาย บริเวณแยกผังเมือง เตรียมพื้นที่จัดงานบำเพ็ญกุศลศพ หลังญาติเดินทางไปรับศพมาเมื่อวานนี้
ขณะที่คู่กรณี ล่าสุดเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนมักกะสัน
นายชีวานนท์ ปรีชากิจโกศล ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์พุ่งชนนางสาววิลาวัณย์ พุ่มมาลา หรือน้องลิ้นจี่ ขณะข้ามทางม้าลาย บริเวณแยกผังเมือง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 กรกฎาคมผ่านมา เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนตำรวจนครบาลมักกะสัน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
นายชีวานนท์ เปิดเผยว่าตัวเองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยอมรับผิดชอบทุกอย่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งยืนยันหลังเกิดเหตุไม่ได้คิดจะหนี
พร้อมระบุว่า ก่อนเกิดเหตุได้จอดติดไฟแดงอยู่ด้านหลังรถจักรยานยนต์อีก2-3 คัน เมื่อไฟเขียวได้ออกตัว และมองไม่เห็นว่าน้องวิ่งข้ามถนนมา โดยได้พยายามหักหลบแล้วแต่ไม่ทัน โดยหากเรื่องคดีความเสร็จสิ้นตนเองจะบวช ให้กับดวงวิญญาณให้ผู้เสียชีวิต
ด้านพันตำรวจโทไพรัช ไสยเลิศ รองผู้กำกับการสอบสวน กล่าวว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาแล้ว โดยหลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการส่งฟ้องต่อศาล ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 30 วัน
พันตำรวจโทไพรัช ยังระบุว่าหลังจากที่ทางผู้เสียหายดำเนินการทางศาสนาเสร็จสิ้น จะเรียกคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อชดใช้และเยียวยาค่าเสียหาย โดยพนักงานสอบสวนจะดำเนินการฟ้องร้องทางคดีอาญาควบคู่ไปด้วย
ขณะที่บ้านผู้เสียชีวิต ในพื้นที่อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ครอบครัวนำศพน้องลิ้นจี่ หรือ น.ส.วิลาวัณย์ พุ่มมาลา มาตั้งบำเพ็ญกุศลศพภายในบ้าน
โดยญาติๆของน้องลิ้นจี่ ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้จะทำการรดน้ำศพ ก่อนที่จะทำพิธีสวดอภิธรรมศพเป็นวันที่ 2 เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมา ญาติรับศพกลับมาในช่วงค่ำทำให้ไม่สามารถจัดพิธีรดน้ำศพได้
นายลำจวน พุ่มมาลา อายุ 49 ปี พ่อของน้องลิ้นจี่ บอกว่า แม้จะทำใจได้บ้างแล้วแต่เมื่อเห็นรูปลูก ก็ยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ผ่านมาน้องลิ้นจีเป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน ช่วยเหลือครอบครัว โดยหลังจากเรียนจบบอกว่าจะให้พ่อหยุดทำงาน เพราะมีปัญหาด้านสุขภาพ แต่ก็มาเสียชีวิตขณะเดินทางไปทำงานวันแรก
นายลำจวน ยังระบุว่า หลังเกิดเหตุคู่กรณีไม่เคยขึ้นไปดูอาการน้องลิ้นจี่ ทั้งๆที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกัน จนกระทั่งเมื่อวานที่ผ่านมา คู่กรณีเดินทางไปที่งานศพและกราบขมาซึ่งตัวเองก็ให้อภัย
ด้านนางมยุรี พรหมา ญาติของน้องลิ้นจี่ บอกว่า หลังเกิดเหตุเพื่อนๆของน้องเข้าไปถามคู่กรณีแต่กลับถูกพูดจาไม่ดีใส่ทำให้เกิดการโต้เถียงกันบ้าง ที่ผ่านมาพ่อและแม่ของน้องลิ่นจี่ต้องเป็นคนติดต่อไป เพราะต้องใช้หลักฐานทาง พรบ.รถจักรยานยนต์ในการรักษาตัว โดยหลังจากที่มาขอขมา เมื่อคืนนี้ คู่กรณีอ้างว่ากลัวจะไม่ปลอดภัยจึงไม่เดินทางมาตั้งแต่แรก
สำหรับศพน้องลิ้นจี่ ญาติจะตั้งสวดอภิธรรมศพที่บ้านจนถึงวันอังคารนี้ก่อนที่จะฌานปกิจศพในวันพุธที่ 10 กรกฏาคม ที่วัดกาไสย์ ต.ทางพระ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
ส่องจุดเกิดเหตุจยย.ชน"น้องลิ้นจี่"สุดเสี่ยงอันตราย
