เหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผยโดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหมของสหรัฐ รวมถึงกระทรวงกลาโหมของอังกฤษ ที่ระบุตรงกันว่า เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ขณะที่เรือบรรทุกน้ำมัน”บริทิช เฮริเทจ”(British Heritage) ซึ่งอยู่ในระหว่างการเดินทางออกจากอ่าวเปอร์เซีย ผ่านทางช่องแคบ”ฮอร์มุส” ถูกเรือพิฆาตของ”กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม” หรือ IRGC จำนวน 5 ลำ ใช้ความพยายามเข้ายึดเรือ
แต่ในระหว่างนั้น เรือรบ”เอชเอ็มเอส.มอนโทรส”(HMS.Montrose) แห่งราชนาวีอังกฤษ ซึ่งลาดตระเวณอยู่ไม่ไกล ได้แล่นเรือเข้าขวางกลางระหว่างเรือบรรทุกน้ำมันกับกองเรือของอิหร่าน พร้อมกับร้องเตือนให้เรือทั้ง 5 ลำถอนกำลังออกไป ซึ่งทางเรือของอิหร่านก็ยอมทำตามแต่โดยดี โดยไม่มีการยิงปะทะกันแต่อย่างใด
หลังเกิดเหตุทางกระทรวงกลาโหมของอิหร่านออกมายืนยันว่า ไม่เคยเกิดเหตุการณ์ที่ทางสหรัฐฯและอังกฤษกล่าวอ้าง โดยเฉพาะในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ไม่มีการเผชิญหน้าใดๆ ทั้งสิ้น
เหตุการณ์ที่ว่านี้ เกิดขึ้นหลังจาก เรือรบของอังกฤษ ให้ความช่วยเหลือต่อทางการ”ยิบรอลตา” ในการยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่าน ซึ่งทางอิหร่านเคยประกาศว่า จะยึดเรือน้ำมันของอังกฤษคืนเพื่อแก้แค้น
อิหร่าน จี้อังกฤษปล่อยเรือบรรทุกน้ำมันที่ยึดไว้
สหรัฐฯโวยอิหร่านเอี่ยวเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน
ผู้นำอิหร่าน ย้ำไม่ต้องการทำสงครามกับสหรัฐฯ
สหรัฐฯส่งฝูงบินรบ “F22 แรพเตอร์” ไปตะวันออกกลาง ท่ามกลางความตึงเครียดอิหร่าน