พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้อภิปรายหลังถูกฝ่ายค้านพาดพิงด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า ตนอาจพูดเร็วไปนิดหนึ่ง พูดไม่ชัดบ้าง กลืนน้ำลายบ้าง เพราะตนเองเป็นมนุษย์ ดังนั้นท่านพูดเก่งก็เรื่องของท่าน ตนเองพูดแล้วทำไปด้วย สำหรับการจัดการปัญหาภัยแล้งขอชี้แจงว่า เราพัฒนามาโดยตลอด ถ้าได้ติดตามสนทช.มาโดยตลอด จะเห็นว่าเราบริหารจัดการน้ำทุกประเทศ ทุกจังหวัด เช่น 1.น้ำประปา 2. น้ำอุปโภคบริโภค 3. น้ำเพื่อการอุตสาหกรรม และ 4. น้ำที่รักษาระบบนิเวศน์ ซึ่งมีเอกสารชัดเจนสามารถมาขอรายละเอียดทั้งหมดไปดูได้
ปัญหาของเราวันนี้ คือ น้ำไม่เพียงพอ ฝนไม่ตก ฝนตกใต้เขื่อน การเกษตรทำเกินกว่าที่จะส่งน้ำไปให้ได้ แต่เรื่องนี้รัฐบาลจะต้องแก้ไข โดยการพัฒนาเพิ่มเติมแหล่งน้ำต่อไป เอาน้ำโขงมาได้อย่างไร เอาน้ำจากประเทศเมียนมาร์ เข้ามาได้อย่างไร เพราะเป็นน้ำระหว่างประเทศ ซึ่งไม่ได้ง่ายนักที่จะทำได้ทุกอย่าง
สนทช.เตรียมเสนอ รัฐบาลประสานจีนปล่อยน้ำเพิ่ม
วิกฤตแม่น้ำโขง กระทบ 7 จังหวัด ภาคอีสาน
“วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้น โดยที่ผมให้ไปติดต่อประเทศจีน และ สปป.ลาว ในการปล่อยน้ำขออกจากเขื่อน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะ จีนเขาก็ตอบว่าเขาก็แล้งเหมือนกันนั่นคือปัญหาของโลกเรา ถ้าม่านติติงอย่างเดียวไม่ส้รางสรรค์เลย มันไม่ได้ บางพื้นที่ สูงเกินไปมันส่งน้ำไปไม่ถึง วันนี้ส่งไปจนเกินขนาดแล้วเพราะประชาชนเรียกร้อง จนต่ำเกินไป ปัญหาต่อไปคือน้ำอุปโภค บริโภคไม่มี”
นายกฯ ระบุอีกว่า “ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง บินไปกว่า 5,000 ชั่วโมงแล้ว 3,000 กว่าเที่ยว ใช้สารเคมีไป 5,000 ตัน ตรงไหนที่มีเมฆก็ทำ ฝนก็ตก ลงมา ตรงไหนไม่มีเมฆ ก็อย่าให้ไปบินเลยครับ เพราะสิ้นเปลือง แต่เราพยายามจะปล่อยน้ำที่มีอยู่ ท้ายสุดถ้าปล่อยจนหมดปัญหาน้ำประปาท่านก้ต้องรับผิดชอบไปด้วยกันทั้งหมด ผมไม่รู้จะเอาน้ำจากไหนให้เหมือนกัน”