นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ อภิปรายนโยบายการเกษตรของรัฐบาล ว่า ที่ดิน คือ คอขวดของปัญหาเกษตรกรรมเกือบทั้งหมด ที่ดิน คือ ชีวิต ที่ดิน คือ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เพราะเกษตรกรเหล่านี้ไม่มีที่ดินเป็นของตัวเองที่ดิน นี่คือกระดุมเม็ดแรก เมื่อเราติดให้ถูกต้อง ปัญหาที่เหลือจะแก้ได้ง่าย แต่ถ้าเกิดเราติดผิด ปัญหาอื่นที่เราพยายามที่จะแก้ ก็จะไม่สามารถแก้ได้อย่างยั่งยืน เมื่อเกษตรกรไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง ก็จะไม่มีทรัพย์สินที่เอาไว้ค้ำประกันกับธนาคาร จึงจำเป็นต้องกู้นอกระบบ เป็นปัญหากระดุมเม็ดที่ 2 เรื่องหนี้สิน เมื่อเป็นหนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้สารเคมีเยอะๆ เพื่อที่จะให้สินค้าออกมามีคุณภาพแน่นอน เวลาจะปลูกอะไร ก็ต้องปลูกพืชเชิงเดี่ยว ปลูกซ้ำ ทำให้มีปัจจัยในการโดนกดดันราคา เกิดปัญหากระดุมเม็ดที่ 3 เรื่องของสารเคมีการเกษตร เรื่องของการประกันราคา และเมื่อนำปัญหาจากกระดุม 3 เม็ดนี้มารวมกัน ก็หมายความว่าเกษตรกรไทยมีต้นทุนที่สูง และผลผลิตราคาที่ต่ำ ไม่สามารถที่จะมีเงินทุนของตัวเอง ในการที่จะแปรรูป หรือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งก็คือกระดุมเม็ดที่ 4 และพอมีโอกาสใหม่ๆ เช่นการท่องเที่ยวทางด้านการเกษตร เขาอยากจะพัฒนาตัวเองจากการที่เป็นผู้ผลิตทางการเกษตร เปลี่ยนเป็นผู้ให้บริการด้านการเกษตร และท่องเที่ยว และนี่คือกระดุมเม็ดที่ 5
ด้าน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวชื่นชมนายพิธา ที่อภิปรายหลายเรื่องเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ พูดได้เข้าประเด็นทั้งหมด พร้อมขอบคุณคำแนะนำ
และพร้อมรับข้อเสนอดังกล่าวไปปฏิบัติ แต่แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาเกษตรกร ต้องใช้มาตรการแก้ไขกฎหมายเพื่อปลดล็อคให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ทำกินได้ ขณะที่ที่ดินทำกินในส่วนของพื้นที่ป่านั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฐานะหน่วยงานที่ดูแลผืนป่าทั่วประเทศ ต้องเป็นผู้พิจารณาด้วย ทั้งนี้ในโลกสังคมออนไลน์ ได้เข้ามาชื่นชมการอภิปรายของนายพิธา และพล.อ.อนุพงษ์ กันเป็นจำนวนมาก
“ทิม - ต่าย” ปรองดอง ส่งลูกเข้าโรงเรียนวันแรกพร้อมหน้า
“ประยุทธ์” แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นครั้งแรก เจอลองของ "ที่นี่ไม่ใช่ทหาร"
