อดีต รมต.รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่เชื่อ "ประยุทธ์" จะนำทีมเศรษฐกิจได้


โดย PPTV Online

เผยแพร่




หลังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ทำให้อดีตรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจไทย ในเวทีเสวนา "สภาที่ 3 เกี่ยวกับการวิพากษ์และข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน" โดยส่วนใหญ่ ยังไม่เชื่อมั่นการนำทีมของ พล.อ.ประยุทธ์

เวทีเสวนาสภาที่ 3 เกี่ยวกับการวิพากษ์และข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลชุดปัจจุบัน มีวิทยากรเข้าร่วม ประกอบด้วย 2 รัฐมนตรีในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน  นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายปรีดา เตียสุวรรณ์ นักธุรกิจภาคการส่งออก

โดยทุกคนต่างวิเคราะห์ทิศทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจยังไม่ก้าวหน้า นายปรีดาและนายธีระชัย มองว่า เศรษฐกิจช่วง 5 ปีที่ผ่านมาในรัฐบาล คสช. ไม่เติบโต และยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นประธานขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยตัวเอง ก็จะไม่ต่างจากเดิม ซึ่งจะทำให้การแข่งขันภาคการส่งออก มีอำนาจลดลงไปด้วย

นายพิชัย มองว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยช่วงนี้ที่มีปัญหาเยอะมาก แต่นายกรัฐมนตรี กลับเป็นประธานขับเคลื่อนทีมเศรษฐกิจเอง ทั้งที่ขาดประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจ  เมื่อบวกกับเหตุวางระเบิดในกรุงเทพมหานครเมื่อวานนี้ จะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจเศรษฐกิจไทย ทำให้ในอนาคตมีแนวโน้มย่ำแย่ลง 

เวทีเสวนาช่วงบ่าย เรื่องตรวจสอบปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นเชิงนโยบายในประเด็นต่างๆ มีวิทยากรประกอบด้วย นางรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา  นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย  นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย  ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนโยบายพลังงานและทรัพยากร มหาวิทยาลัยรังสิต และนายธีรชัย

โดยทุกคนมุ่งที่ปัญหาด้านพลังงาน ว่ารัฐยังคงบริหารจัดการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมากกว่าช่วยเหลือประชาชน อย่างนางรสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา ยกปัญหาการเรียกเก็บภาษี ว่า รัฐเรียกเก็บระหว่างผู้ประกอบการกับประชาชนต่างกัน เห็นชัดจากการเรียกเก็บจากบริษัทเอกชนที่รับขุดเจาะน้ำมัน มีราคาต่ำกว่า การเรียกเก็บภาษีสรรพสามิต

ด้านนายศรีสุวรรณ ได้ยกปัญหาการกำจัดขยะ ของกรุงเทพมหานครมาร่วมพูดคุย โดยชี้ให้เห็นการร่างทีโออาร์ ของบ 1.3 หมื่นล้าน ว่า มีข้อพิรุธ เกี่ยวกับการกำหนดราคากำจัดขยะ โดยพบมีราคาสูงหากเทียบกับต่างจังหวัด เช่น ที่ขอนแก่น มีบริษัทเอกชนรับกำจัดขยะด้วยการนำเข้าเตาเผา ในราคาเริ่มที่ตันละ 300-400 บาท แต่ในกรุงเทพฯกลับเขียนในทีโออาร์ว่า ส่งกำจัดวิธีเดียวกัน กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง วันละ 1000 ตัน ซึ่งมีราคากำจัด 900 บาทต่อตัน และยังพบข้อมูลอีกว่า ในร่างทีโออาร์ กำหนดคุณสมบัติผู้รับเหมาเอื้อบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่อยู่ย่านอ่อนนุชและหนองแขม

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ