กรณีที่กระทรวงคมนาคมเตรียมอนุมัติให้รถแท็กซี่ปรับขึ้นค่าโดยสารขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์ กิโลเมตรที่ 1-10 กม. จาก 6 บาท เป็น 6.50 บาท/กม. รถติดนานขึ้นเป็นนาทีละ 3 บาท ขึ้นเซอร์ชาร์จแท็กซี่สนามบินจาก 50 บาท เป็น 70-90 บาท และ สั่งยกเลิก TAXI OK นั้น
คมนาคม ไฟเขียวปรับขึ้นค่าโดยสารแท็กซี่ รถติดคิดเพิ่มนาทีละ 3 บาท!
วันนี้ 9 ส.ค. 2562 รายการโชว์ข่าว 36 ได้เชิญนาย วรพล แกมขุนทด นายกสมาคมวิชาชีพรถยนต์สาธารณะแท็กซี่ มาร่วมรายการ
นาย วรพล เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าโดยสาร การยืดระยะเวลาของรถจาก 9 ปีเป็น 12 ปี และ สั่งยกเลิก TAXI OK ส่วนการทำแกร็บแท็กซี่ หรือ ทำป้ายดำให้เข้าระบบ นั้น ขณะนี้ยังไม่รู้ว่ากฎหมายจะออกมาในรูปแบบใด ถ้ามีทิศทางที่ดี และ ดีกว่าแท็กซี่ เช่น ผ่อนรถราคาถูก เสียค่าประกันราคาถูก และ อะไรๆก็ถูกกว่าแท็กซี่ ตนถึงจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ และ จะเลิกขับแท็กซี่ เช่นกัน เพราะรถป้ายดำไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะเหมือนกับแท็กซี่ ต่อไปก็ยกเลิกแท็กซี่มิเตอร์ เปลี่ยนเป็นโบกแล้วมาเรียกราคากันเอง เหมือนในอดีต
เมื่อปรับขึ้นราคาแล้วแท็กซี่จะปฏิเสธผู้โดยสารหรือไม่
“ก็อาจมีบ้าง แต่ไม่เยอะ เพราะการปรับราคาเพียง 10 % เท่านั้นไม่ได้เยอะมาก ในอนาคตผู้โดยสารจะกระทบบ้างเล็กน้อย สิ่งที่คนขับแท็กซี่เลือกทำอาชีพนี้ เพราะเขาคิดว่าอะไรคุ้ม หรือไม่คุ้ม จุดคุ้มทุนอยู่ที่ไหนเขารู้ ฉะนั้น เขาตัดสินใจร่วมเดินทางไปกับผู้โดยสารคนไหน เขาต้องรู้จักนิสัยใจคอของผู้โดยสารคนนั้น เพราะเขามีประสบการณ์เยอะ เช่น ผู้โดยสารเรียกจากสยามพารากอน ไปศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม สุขุมวิท 24 เส้นทางดังกล่าวมีรถไฟฟ้าอยู่บนหัว ผู้โดยสารเรียกไปเขาก็มีสิทธิที่จะเปลี่ยนทิศทางได้ ถ้ารถติดผู้โดยสารอาจทิ้งแท็กซี่ระหว่างทางแล้วไปขึ้นรถไฟฟ้า ถามว่าระหว่างนั้นรถติดเป็นชั่วโมงจุดคุ้มทุนของแท็กซี่มีหรือไม่
ต่อให้ขึ้นราคาไปมากกว่านี้ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร
ปัญหาของเมืองหลวง คือการจราจร รถเยอะ จุดคุ้มทุนของเขา คือ อยากไปในที่ที่ไม่มีการจราจรแออัดขนาดนี้ ถนน สุขุมวิท รัชดาภิเษก เพชรบุรี พระราม 4 มีปัญหารถติด ถามว่าเมื่อรถติดแล้วผู้โดยสาร คนใดบ้างที่จะกล้าจ่ายค่าแท็กซี่แพง มิเตอร์ขึ้นนาทีละ 3 บาทผู้โดยสารก็ต้องลงไปนั่งจักรยานยนต์รับจ้าง
จะทำอย่างไรถึงจะแก้ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารได้
ตรงจุดนี้ต่อให้มีตนเอง 10 คน ก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะอยู่ที่จุดคุ้มทุนของคนขับ ถามว่าแก้ได้หรือไม่ ขอตอบว่าแก้ได้ ถ้ารถไม่ติด ตราบใดที่รถติด ปัญหาแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารก็ยังมีอยู่
ทางรมว.คมนาคม เตรียมปรับ ค่ารถติดนานขึ้นเป็นนาทีละ 3 บาท
ถ้าขึ้นค่ารถติด ถามว่าจะมีผู้โดยสารยอมจ่ายหรือไม่ ผู้โดยสารเห็นค่ามิเตอร์ขึ้นเขาลงดีกว่า ต่อให้ไม่ขึ้นค่ารถติด ผู้โดยสารก็ลงอยู่ดีเมื่อเห็นสภาพการจราจรติดขัด แต่ถ้ารถไม่ติดค่าโดยสารก็ปกติ ผู้โดยสาร กับ คนขับก็แฮปปี้
แต่ประชาชนมองว่าเพราะรถติดเขาจึงต้องนั่งแท็กซี่เพื่อไปต่อรถไฟฟ้า ถ้ารถไม่ติดประชาชนเขาก็ขับรถไปเองไม่ต้องขึ้นแท็กซี่
ตนเองขับรถแท็กซี่ตั้งแต่ 2540 รัฐบาลชุดก่อนได้มีนโยบายรถคันแรก เมื่อก่อนแท็กซี่รับผู้โดยสารวันละ 4 เที่ยว แต่ตอนนี้เหลือวันละ1 เที่ยว เพราะมีรถวิ่งบนท้องถนนเยอะมาก การปฏิเสธผู้โดยสารไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมานานแล้ว ถ้าจะแก้ปัญหาเรื่องปฏิเสธลูกค้า ก็ต้องไปคุยปัญหาการจราจร ถ้าผู้โดยสารเรียกตนไปสุขุมวิท ผู้โดยสารไม่ลงจากรถ ตนก็ไป คุ้มทุน เพราะได้ค่ารถติดนาทีละ 3 บาท
ถ้ามีกฎหมายเพิ่มโทษหากแท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสารมองเรื่องนี้อย่างไร
การเพิ่มโทษเป็นเรื่องดี แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ คือ แก้ที่คน คือ จัดงบประมาณ กับ นโยบายให้เดินคู่กัน เช่น นโยบายอบรมคน นัดแท็กซี่ให้เขามาอบรมรวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อดูแลกันเอง เมื่อคนขับคนไหนปฏิเสธผู้โดยสารเขาก็จะไปลงโทษกันเอง ให้เฝ้าระวังกันเอง ถ้าทำนโยบายนี้จริงใช้งบประมาณไม่มาก
“ผมมีกลุ่มคนขับแท็กซี่ 200 คน ใช้งบประมาณอบรมเดือนละครั้ง โดยผมสร้างกลุ่มไลน์ขึ้นมา มีลูกค้าอยู่ในกลุ่ม 1,000 กว่าคน อีกกลุ่มหนึ่งมีลูกค้า 1,700 คน เราไปทุกที่ที่ลูกค้าเรียก การอบรมรวมกลุ่ม แก้ปัญหาได้ 100 % เพราะผมทำมา 6 ปีแล้ว”
ถ้าผู้โดยสารเห็นด้วยกับการขึ้นราคาโดยสาร เห็นด้วยกับการยืดระยะเวลารถ แต่ขอให้มีปรับปรุงคุณภาพในการบริการ
อันนี้ต้องใช้เวลา ไม่ใช่แก้ได้เลย การแก้ปัญหาเรื่องการให้บริการคือ ต้องอบรม
เอาอะไรมาวัด !! โซนไหนรถติด– ไม่ติด ปชช.ถามกลับ “แท็กซี่” เสนอปรับราคา
