สถานการณ์ในฮ่องกงเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) มีประชาชนนับล้านคนฝ่าสายฝน ออกมากางร่มเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยและต่อต้านรัฐบาล ที่สวนสาธารณะวิกตอเรีย ในย่านคอสเวย์ เบย์ ซึ่งนับเป็นการชุมนุมเคลื่อนไหวต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 11 และถือเป็นการประท้วงครั้งใหญ่อีกครั้งในรอบกว่า 2 เดือน
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศโดยรวมเป็นไปโดยสงบเรียบร้อย แตกต่างจากเหตุชุมนุมปิดสนามบินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งกระทบกับภาพลักษณ์ของฮ่องกงและกลุ่มผู้ประท้วงเอง
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (19 ส.ค.) ตำรวจได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบริเวณที่ทำการของสภานิติบัญญัติฮ่องกง พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้สีสเปรย์พ่นข้อความบนกำแพงด้านนอกหลายจุด
ตำรวจยืนยันว่า การชุมนุมในภาพรวมถือว่าสงบเรียบร้อยดี มีเพียงผู้ชุมนุมบางส่วนที่พยายามจะก่อความวุ่นวาย
ชาวฮ่องกงบางส่วนมองว่า การที่ผู้ชุมนุมเลือกเคลื่อนไหวอย่างสันติ สำคัญเป็นอย่างมาก สอดคล้องกับท่าทีของรัฐบาล ที่มักยืนกรานเสมอว่า ความรุนแรงไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
ฮ่องกง คุมเข้ม สถานีรถไฟฝั่งเกาลูน หลังม็อบบุก
ปรับกลยุทธ์ ใช้ “แฟลชม็อบ” เลี่ยงการปราบปรามของ ตำรวจฮ่องกง
ฮ่องกง ชุมนุมใหญ่ ไร้เหตุรุนแรง
จีนประณามม็อบฮ่องกงใช้ความรุนแรง
ศาลสั่งห้ามชุมนุมในสนามบิน หลังเหตุปะทะเดือด