ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "นกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำไหนนอนนั้น" ได้โพสต์ภาพการวางแนวสายไฟ ที่ตัดผ่านกำแพงอิฐ ในพื้นที่โบราณสถานของวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมระบุข้อความทวงถามว่ากรมศิลปากรหายไปไหน เกิดอะไรขึ้นกับวิธีการฝังและเดินสายเคเบิล ทำไมต้องรื้อแนวกำแพงอายุกว่า 300 ปี และทำไมถึงไม่เลือกใช้วิธีอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย พร้อมเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาชี้แจงเพื่อให้เกิดความชัดเจนต่อทุกฝ่าย
ต่อมานายวีระศักดิ์ แสนสะอาด นักโบราณคดีปฎิบัติการ สำนักงานอุทยานแห่งชาติประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่าในภาพที่เห็นคืองานวางระบบไฟส่องสว่างใหม่ ก่อนการดำเนินงานมีการวางแผนแนวสายไฟให้กระทบโบราณสถานให้น้อยที่สุด และ จำเป็นต้องวางแนวสายไฟเข้าด้านในโบราณสถาน จึงตัดสินใจรื้อแนวกำแพงที่บูรณะใหม่ อายุไม่เกิน 30 ปี โดยไม่กระทบหลักฐานเดิม และหากเสร็จแล้วจะเร่งบูรณะฟื้นฟูโดยเร็วที่สุด ซึ่งหน้างานมีเจ้าหน้าที่และนักโบราณคดีดูแลตลอด สามารถสอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้
ด้านนายอรุณศักดิ์ กิ่งมณี รองอธิบดีกรมศิลปากรได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดที่มีการเดินสายไฟบริเวณรอบโบราณสถาน ระบุว่าเบื้องต้น การวางระบบไฟครั้งนี้ อยู่ในโครงการวางระบบไฟฟ้าให้กับโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา งบประมาณประมาณ 90 ล้านบาท ตอนนี้ดำเนินการติดตั้งสำเร็จไปแล้ว 8 แห่ง โดยวัดไชยวัฒนาราม เป็นจุดที่ 9 ซึ่งทางกรมศิลปากรพยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวโบราณสถานให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ตลอดการดำเนินงานมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุม
เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เตรียมพร้อมรับมือน้ำไหลบ่า
กรมศิลป์ฯยกบังเกอร์กันน้ำท่วม โบราณสถานอยุธยา