เขื่อนลำแซะ จ่อ งดปล่อยน้ำ คาดกระทบ ผลผลิตการเกษตร

โคราชฯ แล้งสุดรอบ 30 ปี 2 เขื่อนหลัก หยุดส่งน้ำ

ถึงแม้ว่าเมื่อวานที่ จ.นครราชสีมา จะมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่จากการตรวจสอบระดับน้ำภายในเขื่อนลำแชะพบว่ายังคงอยู่ในปริมาณน้อยมาก ซึ่งเขื่อนลำแชะถือเป็นอีกหนึ่งเขื่อนหลักที่ต้องกักตุนน้ำไว้ให้ชาวบ้านใช้สำหรับอุปโภค-บริโภค จึงอาจจะต้องชะลอการส่งน้ำใช้ในภาคการเกษตรในวันที่ 24 สิงหาคมนี้

นี่เป็นปริมาณระดับน้ำของเขื่อนลำแชะ ซึ่งจากภาพจะเห็นได้ว่าระดับน้ำลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นสิ่งปลูกสร้างของชุมชนเดิมก่อนที่จะมีการก่อสร้างเขื่อนแห่งนี้ รวมถึงตอไม้ใต้น้ำโผล่ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

เขื่อนแห่งนี้ถือว่าเป็นเขื่อนที่ใหญ่เนื่องจากมีความจุกักเก็บน้ำได้ถึง 275 ล้าน ลบ.ม. แต่ว่าขณะนี้ระดับน้ำลดลงต่ำต่อเนื่อง ล่าสุดเหลืออยู่เพียง 49 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งหากไม่มีน้ำไหลเข้ามาสมทบ จะไม่เพียงพอต่อการใช้อุปโภค บริโภคของประชาชน

สำหรับเกษตรกรในพื้นที่ บริเวณ 2 เขื่อนหลักส่วนใหญ่ มีอาชีพทำนาปี ซึ่งจำเป็นต้องใช้น้ำจำนวนมาก ด้านนายบุญล้อม ชาติสีหราช เกษตรกร เล่าว่ายึดอาชีพทำนาในพื้นที่อำเภอครบุรีใต้ มากว่า 30 ปี โดยมีพื้นที่นาทั้งหมด 3ไร่ ซึ่งในฤดูกาลหนึ่งจะได้ผลผลิตไร่ละ 1ตัน แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องมีฝนตกตามฤดูกาลหรือต้นข้าวได้รับน้ำอย่างพอเพียง แต่ในเมื่อทางชลประทานเตรียมประกาศงดส่งน้ำมาให้ ประกอบกับไม่มีฝนจากธรรมชาติ กังวลว่าผลผลิตจะลดลงเหลือ 500-600 กิโลกรัมต่อ 1ไร่ เท่านั้น

ขณะนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมหารือการแก้ไขปัญหาภัยแล้งคาดว่าจะมีผลสรุปในเร็ววันนี้ แต่หากฝนยังทิ้งช่วงอยู่อย่างนี้ คาดว่าจะมีการหยุดส่งน้ำจากเขื่อนลำแชะด้วยในวันที่ 24 ส.ค. นี้
เหมือนกับกรณีเดียวกับเขื่อนมูลบนที่ ชาวบ้านสามารถใช้น้ำจากเขื่อนได้ไม่ถึง 20% จึงต้องประกาศยุติการส่งน้ำให้ภาคเกษตรกร ตามมติของคณะกรรมการบริหารจัดการชลประทาน

แต่หากมีน้ำไหลลงสู่เขื่อนมากพอ หรือรอให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ คาดว่าทางเขื่อนจะกลับมาส่งน้ำให้กับภาคการเกษตรอีกครั้ง

อ่างเก็บน้ำจระเข้มาก ปริมาณน้ำลดต่ำสุดในรอบ 30 ปี