ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุเรียนราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็เพราะพี่จีนแทบจะเหมาทุเรียนจากบ้านเราไป ทำให้ปีนี้ราคาทุเรียนสูงกว่าต้นทุนการผลิตถึง5เท่า พูดถึงจีนแล้ว บ้านเค้าก็เจอปัญหาอาหารแพงเหมือนกัน แต่ไม่ใช่แพงเพราะการส่งออกหรอก การระบาดของไข้หวัดหมูในจีนที่เริ่มมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้จำนวนหมูในประเทศลดลงไปถึง 1 ใน 3 ทั้งจากหมูป่วยตาย และถูกกำจัดเพื่อควบคุมไม่ให้โรคแพร่ระบาด ในประเทศที่มีการบริโภคเนื้อหมูสูงถึง 60%
เมื่อเทียบกับการบริโภคเนื้อสัตว์ทั้งหมด พอเจอพิษโรคหวัดหมูเข้าไป โอ้โห ผลกระทบที่เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงมากโดยเฉพาะราคาหมูในจีนที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 40% เพราะหมูราคาแพงเหลือเกิน คนจีนจึงเริ่มหันมากินเป็ดไก่กันมากขึ้น เรียกว่าพลิกวิกฤติเป็นโอกาสสำหรับผู้เลี้ยงเป็ดและไก่ เพราะเมื่อหมูขาดตลาดก็ทำให้ราคาเป็ดและไก่ดีขึ้น และต้องเพิ่มผลผลิตมากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของตลาดในปีนี้
แม้แต่เจ้าของฟาร์มหมูหลายคน ที่ขาดทุนกับโรคหวัดหมูก็หันมาเลี้ยงไก่และเป็ดแทน ไม่ใช่แค่ประชาชน แต่ภาคธุรกิจก็ต้องมีการปรับตัวขนานใหญ่เหมือนกันครับ ริชาร์ด แคร็กส์ เจ้าของธุรกิจโรงอาหารในโรงงานใหญ่ๆ อย่าง Apple และ Volkswagen เล่าว่า โรงอาหารต้องครีเอทเมนูจานเด็ดใหม่ๆจากไก่และเป็ด มาแทนที่เมนูหมู เพื่อคงราคาอาหารเอาไว้ เปิดหน้า นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่า กว่าวิกฤติโรคหวัดหมูจะคลี่คลายต้องใช้เวลาอีก 5 ปี เป็นอย่างน้อย สำหรับประชาชนตาดำๆที่ไก่ก็ราคาขึ้น หมูก็แพง ถือว่าน่าเห็นใจพี่น้องชาวจีนจริงๆ