วันนี้ 28 ส.ค. 2562 นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตั้งโต๊ะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก กรณีพิพาทโครงการก่อสร้างเซ็นทรัลวิลเวจ ซึ่งเป็นโครงการลักชูรี่เอาท์เล็ตระดับโลกแห่งแรกของไทย และกำลังจะเปิดให้บริการครั้งแรก 31 ส.ค.นี้ แต่ปัจจุบันโครงการถูกบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ปิดกั้นทางเข้า-ออก พร้อมข้อกล่าวหาว่า การก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่ราชพัสดุ
เซ็นทรัลฯ ยัน ทำตามขั้นตอนทุกอย่าง
แต่บริษัทเซ็นทรัล ยืนยันว่า ไม่ได้รุกล้ำและการก่อสร้างทุกขั้นตอนขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย แต่ก็ยอมรับว่าไม่เคยประสานงานกับทอท.ก่อนหน้านี้เลย เพราะประสานงานกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กทพ. ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับทอท.ตลอด
สำหรับโครงการเซ็นทรัลวิลเลจอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิฝั่งทิศใต้ ประมาณ 5-6 กิโลเมตร ทำให้ทุก 5-10นาที จะเห็นและได้ยินเสียงเครื่องบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า การอยู่ใกล้สนามบิน คือ ประเด็นที่ทำให้เกิดข้อพิพาทต่างๆตามมาจำนวนมาก โดยเฉพาะข้อกล่าวหาว่า รุกล้ำที่ราชพัสดุ บนทางหลวงหมายเลข 370 ที่อยู่ในความดูแลของ ทอท.
แต่นายปรีชา ชี้แจงว่า ทางหลวงหมายเลข 370 อยู่ในความดูแลของกรมทางหลวง ไม่ใช่ทอท. ที่ผ่านมาจึงขออนุญาตเชื่อมทางเข้า-ออกกับโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ เพราะ โครงการอยู่ในที่ดินติดถนนใหญ่ ด้านขวาอยู่ติดสนามกอล์ฟซึ่งเป็นที่ของเอกชน ส่วนด้านซ้ายอยู่ติดที่ดินว่างเปล่าและด้านหลังอยู่ติดริมคลองบางโฉลง
แต่ข้อมูลของ ทอท.ระบุว่า โครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ เพราะ มีพื้นที่ประมาณ 164 ตารางวา จุดที่ตั้งเต็นท์ของทอท.ที่มาปิดทางเข้า-ออก ลานจอดรถของโครงการฯ และตลอดแนวถนนเป็นที่ดินราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของทอท. สอดคล้องกับเอกสารฉบับล่าสุดที่กรมธนารักษ์นำมาติดไว้ที่หน้าโครงการเซ็นทรัลวิลเลท ซึ่งยืนยันว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของทอท.จริงและกรณีที่ทอท.เดินหน้าให้บริษัทเซ็นทรัลรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นไปตามกรอบอำนาจทางกฎหมายที่กำหนดไว้
ส่วนกรณีที่ถูกมองว่าโครงการนี้ก่อสร้างในพื้นที่ผังเมืองสีเขียว คือ ที่ดินประเภทชนบทและเกษตรกรรม ไม่สามารถก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างได้ บริษัทเซ็นทรัล ชี้แจงว่า กฎหมายเปิดช่องให้ก่อสร้างในพื้นที่สีเขียวบริเวณ 1-10ได้ หากการก่อสร้างไม่เกินร้อยละ 10 ของพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว แต่ก็มีข้อโต้แย้งว่า ตามกฎหมายจะไม่อนุญาตให้สร้างโรงแรมและสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ หรือหากดำเนินการได้ก็จะสามารถทำได้เพียง 200 ตารางเมตร แต่โครงการเซ็นทรัลวิลเลจมีพื้นที่โครงการเฉพาะสิ่งปลูกสร้างรวม 40,000 ตารางเมตร
ส่วนการดำเนินการโครงการเซ็นทรัลวิลเลจจะส่งผลต่อความปลอดภัยการบินหรือไม่ บริษัทเซ็นทรัล ยืนยันว่า ไม่ได้ละเมิดกฎใดๆ ทั้ง ความสูงของอาคาร และไม่มีกิจกรรมใดๆที่เสี่ยงรบกวนการบิน ประเด็นนี้มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องไฟฟ้าส่องสว่างที่โครงการใช้อาจกระทำกับทัศนวิสัยของนักบินหรือไม่
ส่วนที่มีการระบุว่า ข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับการแข่งขันทางธุรกิจ นายปรีชา ระบุว่า ไม่อยากคาดเดาเรื่องนี้ แต่ส่วนตัวมองว่า สินค้าปลอดภาษีที่ขายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับ สินค้าในโครงการเซ็นทรัลวิลเลจซึ่งเป็นเอาท์เล็ต เป็นสินค้าคนละประเภท
ด้าน นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งหรือสกัดการเปิดบริการของบริษัทเซ็นทรัล แต่เนื่องจากการดำเนินการที่ผ่านมาเจ้าของโครงการไม่เคยขออนุญาต ทอท. จึงต้องปฏิบัติตามหลักการ เพราะไม่สามารถปล่อยปละละเลย หรือ สนับสนุนผู้กระทำผิดกฎหมายบนพื้นที่รัฐได้ พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ กรมทางหลวงเป็นผู้ดูแลและอนุญาตการก่อสร้างโครงการจริง แต่กรมทางหลวงใช้เกณฑ์การประเมินเฉพาะเรื่องผลกระทบด้านถนนเท่านั้น กรมธนารักษ์ในฐานะผู้กำกับดูแลที่ราชพัสดุ จึงให้ ทอท.เข้ามาดูแลและใช้เกณฑ์ด้านการบินเป็นเกณฑ์ประเมินหลัก
ส่วนข้อสงสัยที่ระบุว่าหากพบความผิดเหตุใดทอท.ไม่สั่งระงับการก่อสร้างตั้งแต่แรก นายนิตินัย ระบุว่า ตอนแรกกรมธนารักษ์มีหนังสือถึงทอท.เข้าไปตรวจสอบโครงการเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2562 จากนั้นจึงรวบรวมข้อมูลจากสายงานต่างๆ ก่อนจะได้ข้อสรุปในเดือนเม.ย.ว่าให้บริษัทเซ็นทรัลรื้อถอนถนนปูน เพราะเป็นการรุกร้ำพื้นที่ แต่ในเดือนส.ค.กลับพบว่า มีการเตรียมติดตั้งท่อและที่กั้นเหล็ก พร้อมเปิดใช้บริการ ทั้งที่เคยแจ้งไปแล้วว่าพื้นที่จุดเข้า-ออก ดำเนินการไม่ได้ จึงต้องเข้ามาตั้งจุดเพื่อสกัดไม่ให้มีการดำเนินการใดๆ
ส่วนขั้นตอนทางคดี หลังบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด มหาชน ยื่นฟ้อง บริษัท ท่าอากาศยานไทย หรือ ทอท. ต่อศาลปกครอง เนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา เพราะทอท.กระทำการละเมิด นำเต็นท์มาตั้งปากทางเข้าออกเป็นการขัดขวาง รบกวน หรือก่อให้เกิดอุปสรรค บนทางหลวงแผ่นดิน 370 บริเวณเข้า-ออก หน้าโครงการ “เซ็นทรัล วิลเลจ”
โดย บริษัท เซ็นทรัลพัฒนาฯ อ้างว่า ได้รับอนุญาตให้ทำทางเชื่อมในเขตทางหลวงจากผู้อำนวยการทางหลวงแผ่นดิน จึงขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อมีคำสั่งคุ้มครอง เพื่อขอให้ทอท.รื้อถอนสิ่งกีดขวางออก ทอท. ต่อศาลปกครอง ฐานละเมิดจากการตั้งเต็นท์ปิดทางเข้าออกบนทางหลวงแผ่นดิน 370 บริเวณเข้า-ออก หน้าโครงการ “เซ็นทรัล วิลเลจ”
วันนี้ศาลปกครองมีนัดไต่สวนทั้งคู่ ในตั้งแต่เวลา 13.30 น. จนถึงขณะนี้ ยังคงอยู่ในช่วงไต่สวนของศาลปกครอง ผ่านมา 3 ชั่วโมง (17.30น.) กระบวนการนี้ยังคงไม่เสร็จ
“เซ็นทรัลวิลเลจ” แจงไม่ได้รุกที่ “สุวรรณภูมิ” - “ศักดิ์สยาม” สั่งสอบ
ข้อพิพาท “เซ็นทรัล วิลเลจ – ทอท.” กระทบผู้ใช้ถนน