ตร.จับไต๋เรือ สารภาพ เอาโลมา ทำเนื้อแดดเดียว


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ตามคลิปที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่พบฝูงโลมาปากขวดติดอวนล้อมเรือประมงลำหนึ่ง ต่อมาตรวจสอบว่าเป็นเรือสัญชาติมาเลเซีย แต่คนทำงานบนเรือเป็นคนไทย ซึ่งตำรวจพบตัวชาวประมงกลุ่มนี้ แล้ว หลังสอบสวน ให้การสารภาพว่าฆ่าโลมาไป 4 ตัวเพื่อทำเนื้อแดดเดียว

แห่แชร์คลิปฝูงโลมาติดอวน ชาวประมงจับขึ้นเรือ 3 ตัว

นี่เป็นคลิปที่ปรากฏขึ้นบนเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อว่า อนุวัต จัดให้ โดยโพสต์เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมที่ผ่านมา เรือประมงชื่อ "ส.พรเทพนาวี 9 " เป็นเรือประมงไทย ที่ต่อมานายทุนชาวมาเลเซียซื้อต่อ พร้อมเปลี่ยนสัญชาติเรือเป็นมาเลเซีย แต่ไต๋เรือและผู้ช่วยเป็นคนไทย กำลังลากโลมาปากขวดขึ้นจากอวน ซึ่งตำรวจสืบทราบภายหลังว่าเรือลำนี้กระทำการในน่านน้ำประเทศมาเลเซีย สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายเร่งตรวจสอบ

วันนี้พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บังคับการสำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบและติดตามการบังคับใช้กฎหมาย ศูนย์บัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย เปิดเผยความคืบหน้าว่า ได้ลงพื้นที่ด้วยตนเอง โดยประสานงานกับกรมประมงและทางการมาเลเซีย จนพบผู้กระทำความผิดเป็นคนไทย 2 คน คือนายธนัญชัย มิ่งมิตร หรือไต๋หาร เป็นไต๋เรือในคลิป และนายสันติ บัวผุด หรือไต๋ติ ผู้ช่วยไต๋เรือ สอบปากคำทั้งคู่ สารภาพว่าเป็นผู้สั่งการให้ลูกเรือ เอาโลมาที่ติดอวน 30 ตัว ขึ้นมาบนเรือจริง และเอาโลมา 4 ตัวมาทำเนื้อแดดเดียวกินกันบนเรือ ส่วนที่เหลือโยนทิ้งลงทะเล

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ อธิบายว่า แม้การก่อเหตุจะเกิดขึ้นในน่านน้ำมาเลเซีย แต่กฎหมายฉบับใหม่ตาม พ.ร.ก.ประมง 2559 มาตรา 66 บัญญัติไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดจับสัตว์น้ำชนิดที่เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์น้ำที่หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ตามที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด หรือนําสัตว์น้ำดังกล่าวขึ้นเรือประมง เว้นแต่มีความจําเป็นเพื่อการช่วยชีวิตของสัตว์น้ำนั้น ประกอบกับมาตรา 8 ก็ระบุว่าเพื่อเป็นการปฏิบัติตามอนุสัญญาเกี่ยวกับการอนุรักษ์และการบริหารจัดการการประมงที่ไทยเป็นภาคีสมาชิก ศาลไทยมีอำนาจพิจารณาและพิพากษาคดีได้ แม้จะเกิดนอกน่าน้ำไทย แต่ขึ้นอยู่กับข้อตกลงร่วมกันขององค์การระหว่างประเทศ โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คนจะมีโทษมาตรา 145 กฎหมายประมง ปรับตั้งแต่ 3 แสนบาท ถึง 3 ล้านบาท หากไม่มีเงินจ่ายค่าปรับจะต้องถูกกักขัง ไม่เกิน 2 ปี

“ไต๋เรือ” ปฏิเสธไม่ได้จับฉลามวาฬ ยันแค่ติดอวน

 

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ