เปิดสำนวน 17 เม.ย.57 ตำรวจภาค 7 “ไม่พบการปล่อยตัว บิลลี่”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




3 เดือนหลังวันที่มีผู้พบเห็น ‘บิลลี่ พอละจี’ เป็นครั้งสุดท้าย หน้าที่การทำคดีเพื่อตามหาตัวบิลลี่ ถูกโอนมาอยู่ในการดูแลของตำรวจภูธรภาค 7 กระบวนการสืบหาข้อเท็จจริง ตรวจสอบกล้อง เปรียบเทียบช่วงเวลา ซักพยานรายบุคคล จำลองเหตุการณ์จากปากคำพยาน เกิดขึ้นนับตั้งแต่นั้น จนเป็นที่มาของสำนวนที่จะถูกเปิดเผยในวันนี้ เหตุใดจึงสรุปว่า ไม่พบการปล่อยตัว บิลลี่ ทีมข่าวพีพีทีวี ได้คุยกับหัวหน้าชุดสืบสวน พร้อมนำหลักฐานที่สำคัญมาเปิดเผย

5 ปี “บิลลี่ พอละจี” สุดท้ายคือ “ฆาตกรรม”

DSI เตรียมแถลงคดี “บิลลี่ พอละจี”

เปิดภาพหลักฐานจากสำนวนดีเอสไอโยงปมอุ้มฆ่าบิลลี่

เมื่อวันที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากคดีบุคคลสูญหายไปกว่า 5 ปี เปลี่ยนเป็นคดีฆาตกรรม เมื่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แถลงพบชิ้นส่วนกะโหลกด้านในที่ดีเอ็นเอยืนยันว่าเป็นของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงในป่าแก่งกระจาน โดยพบอยู่ข้างถัง 200 ลิตร พร้อมเศษไม้ และเหล็กเส้น 2 ชิ้น ทุกชิ้นถูกตรวจผ่านกระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าผ่านการเผาไหม้ด้วยความร้อน 200-300 องศาเซลเซียส

เมื่อข้อมูลจากการแถลงข่าวเป็นเช่นนี้ แน่นอนว่า ต้องย้อนกลับไปดูเหตุการณ์วันที่ 17 เมษายน 2557 วันสุดท้ายที่มีผู้พบเห็น "บิลลี่" โดยพบระหว่างที่เขาควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งชาติแก่งกระจาน ซึ่งรวมถึงนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งในเวลานั้นเป็นหัวหน้าอุทยาน

จากข่าวที่ปรากฏตามสื่อก่อนหน้านี้ นายชัยวัฒน์ ให้การกับตำรวจว่า ได้ควบคุมตัวบิลลี่ไว้จริงที่ด่านตรวจเขามะเร็ว ซึ่งเป็นทางเข้า-ออก บ้านโป่งลึก - บางกลอย บ้านของบิลลี่ เพราะมีน้ำผึ้งป่าอยู่ที่ตัว แต่เห็นว่าเป็นความผิดเล็กน้อย และเห็นเป็นสมาชิก อบต. จึงเพียงแค่ตักเตือนและปล่อยตัวไป โดยนำตัวขึ้นรถไปปล่อยตัวที่บริเวณแยกหนองมะค่า ห่างจากจุดที่ควบคุมตัวประมาณ 7 กิโลเมตร แต่ในสำนวนการสืบสวนสอบสวนที่ตำรวจภูธรภาค 7 ทำไว้ กลับถูกสรุปว่า "ไม่พบว่ามีการปล่อยตัวบิลลี่"

พ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย อดีตรองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 เข้ามารับทำหน้าที่หาความจริงในวันสุดท้ายที่บิลลี่ปรากฏตัว แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเข้ามาเมื่อเรื่องราวผ่านมาเป็นเวลาถึง 3 เดือนแล้ว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อน 16.00น. ของวันที่ 17 เมษายน 2557 วิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่อุทยาน แจ้งว่าได้ควบคุมตัวบิลลี่ นายพอละจี รักจงเจริญ ไว้ที่ด่านตรวจเขามะเร็ว พร้อมน้ำผึ้งป่าจำนวนหนึ่ง

ในสำนวนการสืบสวน ระบุว่า รถของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่มีเจ้าหน้าที่ 4 คน รวมทั้งนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยาน และนักศึกษาฝึกงานอีก 2 คน ขับผ่านกล้องวงจรปิดจุดพุไทร ซึ่งอยู่ก่อนถึงด่านมะเร็วแระมาณ 2 กิโลเมตร เมื่อเวลา 16.02น. และเข้ามาที่ด่านพบกับบิลลี่ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ก่อนแล้วโดยเจ้าหน้าที่ประจำจุดที่ด่านตรวจมะเร็ว ในช่วงนี้มีผู้พบเห็นบิลลี่อีก 1 คน เป็นชาวกะเหรี่ยงที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา ซึ่งช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาสุดท้าย ที่มีพยานเห็นบิลลี่ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่

เมื่อหลักฐานปรากฏเช่นนี้ จึงสรุปได้ว่า มีผู้เห็นบิลลี่ รวม 8 คน คือ นายชัยวัฒน์ เจ้าหน้าที่อุทยานอีก 3 คน และนักศึกษาฝึกงาน 2 คน ที่มาด้วยรถคันเดียวกัน อีก 1 คนคือเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจที่ควบคุมตัวบิลลี่ และอีก 1 คน คือชาวกะเหรี่ยงที่ผ่านมา โดยจุดที่เจ้าหน้าที่อุทยานรวมทั้งนายชัยวัฒน์ให้การไว้เองว่า นำตัวบิลลี่และรถจักรยานยนต์ของบิลลี่ขึ้นรถ โดยมีเจ้าหน้าที่ 1 คน นั่งท้ายกระบะเพื่อยึดจับรถจักรยานยนต์ ส่วนบิลลี่ถูกระบุจากพยานว่าเข้าไปนั่งอยู่ในรถ โดยภาพวงจรปิดที่กล้องพุไทร บันทึกเวลาที่รถของอุทยานออกจากด่านมะเร็ว จนกลับไปผ่านกล้อง เมื่อเวลา 16.17น.

ขณะที่กล้องตัวเดียวกันที่จุดพุไทร ยังจับภาพรถอีก 1 คัน ซึ่งเป็นรถของเจ้าหน้าที่ประจำด่านมะเร็ว ขับตามออกมา ผ่านกล้องในเวลา 16.20น. โดยรถคันนี้นำนักศึกษาฝึกงานทั้ง 2 คน กลับออกมาด้วยเพื่อจะไปส่งยังที่ทำการอุทยาน จะเห็นว่า ขับตามกันมาใช้เวลาห่างกัน 3 นาที และภายหลัง ทั้ง 3 คน ที่อยู่บนรถคันนี้ถูกใช้เป็นพยานว่า เห็นบิลลี่ได้รับการปล่อยตัว ก่อนถึงแยกหนองมะค่า  ช่วงเวลา 3 นาทีนี้ มีความหมายอย่างมากต่อกระบวนการสืบสวน แต่ก่อนจะไปดูว่า 3 นาที มีความหมายอย่างไร ต้องกลับไปดูก่อนว่า เจ้าหน้าที่อุทยานให้การถึงจุดที่ปล่อยตัวบิลลี่ว่าอย่างไร

พ.ต.อ.ไตรวิช เปิดเผยว่า ก่อนจะสอบปากคำ ทางจ้าหน้าที่อุทยานทำเอกสารชี้แจงจุดปล่อยตัวบิลลี่ไว้แล้ว โดยให้ 1 ใน 4 คนที่อยู่บนรถกับบิลลี่ จับพิกัด GPS ระบุว่า จุดที่ปล่อย อยู่ห่างจากแยกหนองมะค่าประมาณ 400 เมตร ตรงนั้นเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใดๆ แต่เมื่อเรียกเจ้าหน้าที่คนนี้มาให้ปากคำ กลับบอกว่า จุดปล่อยตัวบิลลี่ อยู่ก่อนถึงแยกหนองมะค่าเพียง 20 เมตร ซึ่งระยะต่างกันมาก แต่บังเอิญว่า จุดที่ห่างจากแยก 20 เมตร มีร้านค้าอยู่ร้านหนึ่ง ซึ่งให้การกับพนักงานสอบสวนว่า "ไม่เห็นการปล่อยตัวบิลลี่" ทั้งที่หากปล่อยตัวตรงนั้นจริง จะต้องจอดรถเป็นเวลานาน เพราะต้องนำรถจักรยานยนต์ของบิลลี่ลงจากกระบะของรถอุทยานด้วย

เมื่อร้านค้าบอกว่า ไม่เห็นการปล่อยตัวบิลลี่ เจ้าหน้าที่อุทยานที่ให้การจึงเปลี่ยนคำให้การว่าปล่อยตัวบิลลี่ 400 เมตร ก่อนถึงแยกหนองมะค่า ดังนั้น เราจะยึดจุดนี้เป็นหลักว่าเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่อุทยานอ้างว่าปล่อยตัวบิลลี่

 “ตรงที่อ้างว่าปล่อยตัวห่างแยก 20 เมตร มีร้านค้าอยู่ เขายืนยันไม่เห็นบิลลี่ ไม่เห็นการปล่อยตัว เลยให้การกลับไประบุว่าปล่อยตัวที่จุดห่างจากแยก 400 เมตร ซึ่งเป็นที่โล่ง”

 

กลับมาที่รถของเจ้าหน้าที่ด่านมะเร็ว ที่มาพร้อมนักศึกษาฝึกงาน 2 คน ทั้ง 3 คนนี้ เดิมทีให้ปากคำเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่อุทยานว่าเป็นคนที่เห็นบิลลี่ ซึ่งถูกปล่อยตัวแล้ว แต่จุดที่เห็นบิลลี่ คือ จุดที่เลยแยกหนองมะค่าไปอีก 3 กิโลเมตร

คำให้การนี้ ทำให้ พ.ต.อ.ไตรวิช มองว่ามีพิรุธ จึงให้พนักงานสอบสวนไปจำลองเหตุการณ์ โดยตั้งสมมติฐานจากจุดที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าปล่อยตัวบิลลี่ โดยจำลองเหตุการณ์หลายครั้ง ก็สรุปได้ว่า รถอีกคันของเจ้าหน้าที่ด้านมะเร็วที่พานักศึกษาฝึกงานมาด้วย ตามหลังมาในเวลาที่ห่างกันเพียง 3 นาที ควรจะมาเห็นบิลลี่ ระหว่างนำรถจักรยานยนต์ลงจากรถกระบะ ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า 3 นาที และเห็นว่ายิ่งเป็นไปไม่ได้ ที่จะไปเห็นบิลลี่ ในจุดที่ห่่างไปอีก 3 กิโลเมตร

ข้อโต้แย้งของตำรวจ ทำให้ เจ้าหน้าที่ประจำด่านมะเร็ว กลับคำให้การ ยอมรับว่า เขาไม่ได้เห็นบิลลี่ที่ถูกปล่อยตัวแล้ว

 “3 นาทีนี้ มีความหมาย เราจำลองเหตุการณ์ สมมติปล่อยบิลลี่ที่จุดนั้น จะเจอบิลลี่ที่ไหน ถ้าปล่อยบิลลี่ที่หนองมะค่าต้องเจอที่นั่น ไม่มีทางเจอที่อื่น”

ส่วนคำให้การของนักศึกษาฝึกงาน 2 คน ที่ให้การว่าเห็นบิลลี่ถูกปล่อยตัวห่างไป 3 กิโลเมตร จากแยกหนองมะค่าเช่นกัน ถูก พ.ต.อ.ไตรวิช มองว่ามีพิรุธข้ออื่นด้วย เพราะหนึ่งในนักศึกษาไปให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน 2 สำนัก แต่คำให้การไม่ตรงกัน ครั้งแรกบอกว่าเห็นระหว่างนั่งรถสวนกับบิลลี่ แต่ครั้งที่ 2 บอกว่า ขับรถตามบิลลี่มา พนักงานสอบสวนจึงนำคลิปทั้ง 2 ครั้ง มาให้นักศึกษาดูพร้อมผู้ปกครองและอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ทำให้ผู้ปกครองบอกให้นักศึกษาให้การใหม่ตามข้อเท็จจริง จึงยอมรับว่า ไม่ได้เห็นบิลลี่เลย

“เราให้เขาดูคลิปที่เขาสัมภาษณ์ ให้พ่อแม่ อาจารย์มาดู คุยกัน พ่อเขาก็บอกว่าให้ให้การไปตามความจริง เขาก็เลยกลับคำให้การ รับว่าไม่เห็นบิลลี่”

 

กลับมาที่การไล่ภาพจากกล้องวงจรปิด ถ้าดูจากแผนที่จะเห็นว่า พนักงานสอบสวน ใช้ภาพถ่ายจากกล้องวงจรปิด 4 จุด

จุดที่ 1 เรียกว่าจุดพุไทร กล้องตัวนี้ บ่งบอกว่า มีรถเพียงคันเดียวที่เป็นของอุทยาน ผ่านไปที่ด่านมะเร็ว ในเวลา 16.02น. และกลับออกมาในเวลา 16.17น. และมีรถของเจ้าหน้าที่ประจำด่านตามออกมาในอีก 3 นาที เวลา 16.20น. นำมาประกอบคำให้การที่เจ้าหน้าที่อุทยานยอมรับว่า ควบคุมตัวบิลลี่ไว้บนรถคันนี้ ซึ่งรถคันนี้ ถูกนำไปผ่านการพิสูจน์หลักฐานแล้วว่าเป็นรถที่นายชัยวัฒน์ หัวหน้าอุทยานใช้ เพราะถูกสั่งซื้อมาเป็นล็อตที่ 2 จึงมีโรบาหลังกระบะเป็นสีเงิน ต่างจากรถคันอื่นที่มีโรบาเป็นสีดำล้วน

จุดที่ 2 เรียกว่า จุดคุ้มนางพญา จุดนี้บันทึกภาพสำคัญ คือ ภาพรถอุทยานคันนี้ป่านกล้องในเวลา 16.43น. เส้นทางของรถมุ่งไปทางด่านสามยอด ทางขึ้นเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งขัดกับคำให้การของนายชัยวัฒน์ ที่อ้างว่า กลับบ้านที่ไร่ชัยราชพฤกษ์ ซึ่งอยู่คนละทาง และกล้องคุ้มนางพญายังจับภาพได้ว่า รถคันนี้ วิ่งผ่านกลับมาในเวลา 19.50น.

จุดที่ 3 เรียกว่า จุดร้านสมร ภาพเดียวที่กล้องตัวนี้จับภาพที่เกี่ยวข้องได้ คือ ภาพรถอุทยานคันเดียวกันวิ่งผ่านในเวลา 20.05น. แต่มีสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ นี่ควรจะเป็นกล้องที่จับภาพ “บิลลี่” ได้ เพราะหากบิลลี่ถูกปล่อยตัว จะต้องขับรถจักรยานยนต์ผ่านจุดนี้ แต่กลับไม่มีภาพของบิลลี่ปรากฎอยู่เลย

จุดที่ 4 เรียกว่า จุดหนองปืนแตก แม้ว่ากล้องตัวนี้จะจับภาพรถที่เกี่ยวข้องไม่ได้เลย แต่ก็ถือเป็นหลักฐานสำคัญ เพราะเมื่อนายชัยวัฒน์ ให้การว่า เมื่อปล่อยบิลลี่แล้วก็กลับบ้านที่ไร่ชัยราชพฤกษ์ พ.ต.อ.ไตรวิช จึงให้เจ้าหน้าที่อุทยานที่ไปด้วยมาวาดแผนที่เส้นทางกลับไร่ชัยราชพฤกษ์ ซึ่งต้องผ่านกล้องที่จุดหนองปืนแตก แต่เมื่อไล่ดูทั้งหมดกลับไม่ปรากฎภาพของรถอุทยานที่นายชัยวัฒน์ใช้ผ่านที่กล้องตัวนี้

ทั้งหมดนี้ คือ สำนวนการสืบสวนสอบสวน ที่ พ.ต.อ.ไตรวิช ทำเสร็จแล้ว และส่งมอบต่อไปให้ดีเอสไอแล้วด้วยการสรุปสำนวนว่า “ไม่พบการแปล่อยตัวบิลลี่”  

แต่ทั้งหมดนี้ เป็นสำนวนเฉพาะประเด็น "บิลลี่" ถูกปล่อยตัวแล้ว จริงหรือไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม ที่อยู่ในการดูแลของ ดีเอสไอ

 

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ