เปิด "นวัตกรรมใหม่" ตามสไตล์แอปเปิ้ลกับ "ราคาที่ถูกลง"


โดย PPTV Online

เผยแพร่




วันที่ 10 กันยายน 2019 เวลาประมาณ 23.30 น. Apple จัดงานแถลงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ที่ คูเปอร์ติโน่ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา โดยภายในงานได้มีการเปิดตัว iPhone 11 , iPhone 11 Pro , iPhone 11 Pro Max , iPad รุ่น 7, Apple Watch Series 5 พร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ตามสไตล์แอปเปิ้ล

เริ่มที่พระเอกของงานอย่าง  iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max  ที่มีให้เลือก 4 สี คือ ดำ, ทอง, ขาว และสีใหม่คือ Midnight green โดยจอภาพ Super Retina XDR ใหม่ ใช้แผง OLED ที่ออกแบบขึ้นโดยเฉพาะ ปรับสว่างสูงสุดถึง 1,200 นิต ขนาด 5.8 นิ้ว และ iPhone 11 Pro Max ขนาด 6.5 นิ้ว  และมีการป้องกันที่ระดับ IP68 จึงทนน้ำได้ลึกถึง 4 เมตร นาน 30 นาที

11 ปี "iPhone" กับโทรศัพท์มือถือ 21 รุ่น

ระบบกล้องระดับโปรที่ทุกคนรอคอย ครั้งนี้ iPhone 11 Pro มาพร้อม ระบบ 3 กล้องที่ประกอบด้วย กล้องอัลตร้าไวด์, ไวด์ และเทเลโฟโต้ ที่สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายระดับมากยิ่งขึ้น โดยเก็บภาพกว้างขึ้นถึง 4 เท่า ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมด้วย Deep Fusion ซึ่งเป็นระบบประมวลผลภาพแบบใหม่ที่จะสามารถประมวลผลรูปภาพแบบพิกเซลต่อพิกเซล เพื่อปรับรายละเอียด ลวดลาย และนอยซ์ในทุกส่วนของภาพให้สวยงามลงตัวที่สุด  ซึ่งกล้องแต่ละตัวในระบบสามกล้องสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ส่วนการถ่ายภาพตอนกลางคืน ทำได้สวยมากยิ่งขึ้น

ฉลองครบรอบ 10 ปีไอโฟนกับ 10 เรื่องที่ต้องรู้

Apple ได้ใส่ A13 Bionic เป็นชิพที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน โดย iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max ต้องรับมือ อีกทั้งยังมี CPU และ GPU ที่เร็วกว่า A12 ถึง 20% นอกจากนี้ A13 Bionic ยังสร้างมาเพื่อการเรียนรู้ของระบบ โดยมี Neural Engine ที่เร็วขึ้นสำหรับวิเคราะห์รูปถ่ายและวิดีโอแบบเรียลไทม์ ในส่วนแบตเตอรี่ของ iPhone 11 Pro นั้นใช้งานได้นานกว่า iPhone Xs สูงสุด 4 ชั่วโมง ในขณะที่ iPhone 11 Pro Max ใช้งานได้นานกว่า iPhone Xs Max สูงสุด 5 ชั่วโมง  ทาง Apple แถมที่ชาร์จ 18 W มาให้ด้วย

“Apple Iconsiam” ริมแม่น้ำเจ้าพระยากับยอดขายทั่วโลก 46.9 ล้านเครื่อง

ต่อมา iPhone 11 ที่พร้อมระบบ กล้องคู่ ประกอบด้วยกล้องอัลตร้าไวด์และไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โดยมาพร้อมด้วย Deep Fusion ซึ่งเป็นระบบประมวลผลภาพแบบใหม่ที่จะสามารถประมวลผลรูปภาพแบบพิกเซลต่อพิกเซล  พร้อมระบบปฏิบัติการ iOS 13 และชิพ A13 Bionic ซึ่งเป็นชิพที่รวดเร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน  ป้องกันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐานระดับ IP68 ด้วยการทนน้ำที่ความลึกไม่เกิน 2 เมตร นานติดต่อกันสูงสุด 30 นาที  มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 6.1 นิ้วงดงามรองรับขอบเขตสีกว้าง และสี True Tone

ราคาและการวางจำหน่าย...

- iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max จะมีให้เลือกระหว่างรุ่นความจุ 64GB, 256GB และ 512GB ในสีมิดไนท์กรีน เทาสเปซเกรย์ เงิน และทอง ในราคาเริ่มต้นที่ 35,900 บาท และ 39,900 บาท

- iPhone 11 จะพร้อมวางจำหน่ายในรุ่นความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ในรุ่นสีม่วง สีเขียว สีเหลือง สีดำ สีขาวและสีแดง PRODUCT(RED) โดยเริ่มต้นที่ราคา 24,900 บาท

“แอปเปิล” เปิดตัวไอโฟน 11 ชูจุดเด่นกล้อง 3 ตัว

ต่อมา iPad ใหม่รุ่นที่เจ็ด มาพร้อมจอภาพ Retina ขนาด 10.2 นิ้ว ความละเอียดเกือบ 3.5 ล้านพิกเซล  รองรับ Apple Pencil และเป็นครั้งแรกที่รองรับ Smart Keyboard ขนาดฟูลไซส์” Greg Joswiak” พร้อม iPadOS เพื่อการทำงานแบบมัลติทาสก์อย่างทรงพลัง และเพิ่มความสามารถในการสร้างสรรค์  ทำงานด้วยชิพ A10 Fusion ที่ทรงพลัง iPad ใหม่ ตัวเครื่องออกแบบมาเพื่อให้พกพาสะดวกและทนทาน iPad นี้มีน้ำหนักประมาณหนึ่งปอนด์ และเป็นครั้งแรกที่ตัวเครื่องทำมาจากอลูมิเนียมรีไซเคิล 100 เปอร์เซ็นต์ 

ราคาและการวางจำหน่าย

- iPad ใหม่ รุ่นที่เจ็ด มีวางจำหน่ายในสีเงิน, สี Space Gray และสีทอง ในค่าความจุ 32GB และ 128GB โดย iPad มีราคาเริ่มต้น 10,900 บาท สำหรับรุ่นที่รองรับ Wi-Fi และ 15,400 บาท 

ต่อมา Apple Watch Series 5 ปรับหน้าจอภาพ Retina แบบติดตลอดเวลาที่ไม่มีวันหลับ เพื่อให้ผู้ใช้ดูเวลาและข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องยกข้อมือขึ้นมาหรือแตะหน้าจอและยังมีฟีเจอร์ใหม่ๆ โดยตัวเรือน Apple ได้เลือกวัสดุที่หลากหลายยิ่งกว่าเดิมมีทั้งอะลูมิเนียม สแตนเลสสตีล เซรามิก และไทเทเนียมแบบใหม่ มาพร้อมกับ "แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน 18 ชั่วโมงตลอดวัน"

โดย WatchOS 6 ผู้ใช้ก็จะสามารถควบคุมสุขภาพและการออกกำลังกายของตนได้อย่างเต็มที่ด้วยคุณสมบัติใหม่ แอพเสียงรบกวนใหม่ที่จะเตือนคุณเมื่อเสียงนั้นมีระดับเดซิเบลที่สูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการได้ยินของคุณ อีกแอพที่ถูกใจสาวๆ เช่น การติดตามรอบเดือนใหม่จะช่วยให้การบันทึกข้อมูลรอบการมีประจำเดือนของคุณและคาดการณ์ช่วงเวลาไข่ตกได้อย่างสะดวก  อีกทั้งยังเพิ่มเข็มทิศในตัวเพื่อแสดงแผนที่และทิศทางได้อย่างแม่นยำ  โดยผู้ใช้ที่มี Apple Watch Series 5 รุ่นเซลลูลาร์ สามารถโทรติดต่อบริการฉุกเฉินทั่วโลกและยังทำงานร่วมกับการตรวจจับการล้มได้อีกด้วยเมื่อคุณเปิดใช้งานไว้

ราคาและการวางจำหน่าย...

Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS) ราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท และ Apple Watch Series 5 (รุ่น GPS + Cellular) ราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บาท

ก้าวสำคัญของ "หัวเว่ย" ทะยานขึ้นเบอร์ 2 สอง "ตลาดสมาร์ทโฟน"

 

PR-โปรแกรมผลบอล-2_B PR-โปรแกรมผลบอล-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ