ยูเอ็น ประกาศอยู่ข้างภรรยาบิลลี่ ทวงความยุติธรรม

5 ปี “บิลลี่ พอละจี” สุดท้ายคือ “ฆาตกรรม”

สิ่งที่อยู่ในความสนใจคือการมาร่วมงานของรองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งกำลังสืบสวนหาตัวผู้สังหารบิลลี่ และมีข่าวความคืบหน้าออกมาเป็นระยะ ยังมีผู้แทนของสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งประกาศจะอยู่เคียงข้างและสนับสนุนภรรยาของบิลลี่ทุกช่องทาง และในงานวันนี้มีพิธีรำลึกบิลลี่ตามวัฒนธรรมชาวกะเหรี่ยงด้วย

กอดกะเหรี่ยง คือ กิจกรรมให้กำลังใจครอบครัวของบิลลี่ นางพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาพร้อมลูกๆ 5 คน ที่จัดขึ้นในวันนี้ โดยนายวุฒิ บุญเลิศ ที่ปรึกษาเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เป็นคนแรกที่โอบกอดส่งกำลังใจให้มึนอ ก่อนที่พี่น้องชาวกะเหรี่ยงคนอื่นๆ จะเข้ามาโอบกอดมึนอ

จากนั้น มึนอ ลงมาโอบกอดเพื่อส่งกำลังใจของครอบครัวบิลลี่และชาวกะเหรี่ยงต่อไปให้กับ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมมอบผ้าที่ทอเองให้กับ พ.ต.ท.กรวัชร์ ต่อมาจึงโอบกอดผู้ให้ความช่วยเหลือคนอื่นๆทั้งทนายความ นักสิทธิมนุษยชน และผู้แทนจากสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

Mr.Badar Farrukh ผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวเปิดงานพิธีรำลึกถึงบิลลี่ โดยระบุว่า พร้อมที่เคียงค้างและสนับสนุนนางพิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาของบิลลี่ อย่างเต็มที่ เพราะติดตามประเด็นการหายตัวไปของบิลลี่มาตลอด 5 ปี โดยเห็นว่า เป็นกรณีที่สลับซับซ้อน เพราะมีทั้งการถูกบังคับให้สูญหาย การปกป้องทรัพยากร และะการต่อสู้ของกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งตั้งแต่ปี 2523 มีการรายงานข้อมูลบุคคลสูญหาย 79 คน ในประเทศไทย รวมทั้งนายสมชาย นีละไพจิตร และบิลลี่ จึงได้ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลไทยให้ลงนามในพิธีสาร ... และหวังว่า ดีเอสไอจะนำไปประกอบในการทำคดีของบิลลี่ พร้อมยืนยันว่า สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งประชาชาติ จะจะสนับสนุนทั้งองค์กรรัฐ เอกชน รวมทั้งดีเอสไอในการให้ความยุติธรรมกับบิลลี่

พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ บอกว่า ดีเอสไอ พยายามทำเรื่องการสูญหายของบิลลี่มาตลอด ตั้งแต่ยังอยูในตำแหน่งเดิม ได้ไปคุยกับมึนอที่บ้าน จนเกิดความสงสาร และไม่เชื่อว่าบิลลี่จะไม่กลับบ้านเอง ในขณะที่มีลูกเล็กๆ 5 คน เมื่อผ่านไปเกือบ 4 ปี มารับตำแหน่งรองอธิบดี จึงเสนอให้คดีนี้เป็นคดีพิเศษ โดยคณะกรรมการคดีพิเศษ ทุกคนเห็นชอบ จากนั้นจึงเร่งกระบวนการสืบสวนค้นหาบิลลี่ทันที จนพบชิ้นส่วนกระดูกที่สรุปว่าบิลลี่เสียชีวิตแล้ว ส่วนการสืบสวนต่อจากนี้ไป จะขอใช้เวลาอีกซักพักอเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจนที่สุด และต้องทำอย่างรอบคอบ

"หลายปีที่ผ่านมา เห็นมึนอวนเวียน ผมนอนไม่หลับ สงสัยทำไมถึงทำไม่ได้ ให้ลูกน้องไปหาข่าว ทุ่มเทมาก"

นางพิณนภา บอกว่า ตลอด 5 ปี ที่บิลบี่หายไปบำลากมาก เพราะต้องดูแลครอบครัว ลูก 5 คน และต้องออกมาขับเคลื่อนติดตามคดีของบิลลี่

นางพิณนภา ยังเล่าเหตุการณ์วันที่ื 18 เมษายน 2557 ที่เพิ่งรู้ว่าบิลลี่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน และไม่มีใครติดต่อบิลลี่ได้เลย พร้อมอ้างถึงการยื่นขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานที่ไม่ได้รับการสนับสนุน จึงรู้สึกในขณะนี้นว่า ความยุติธรรม ไม่มีอยู่จริง จนมารู้จากดีเอสไอว่าติดตามจนพบบิลลี่ จึงขอขอบคุณ ดีเอสไอ

ยื่นหลายที่ สำนักนายกฯก็ยื่น รู้สึกว่าความยุติธรรมไม่มีอยู่จริง"

นายชนม์สวัสดิ์ ประศาสน์ครุการ นักสืบสวนสอบสวนชำนาญการพิเศษ กองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 หรือ ป.ป.ท. บอกว่า สำนวนของ ป.ป.ท. เป็นส่วนที่สืบสวนประเด็นการทุจริตต่อหน้าที่ ที่เจ้าหน้าที่อุทยานควบคุมตัวบิลลี่แต่ไม่ส่งตัวบิลลี่ให้ตำรวจ และไม่พบการดำเนินคดีกับบิลลี่ ไม่เกี่ยวกับการหายตัวไปของบิลลี่ ซึ่งได้ไต่สวนพยานไปกว่า 30 ปาก และพบว่ามีความปิดอื่นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของการสูญหาย จึงส่งต่อไปให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ซึ่งจะถูกใช้ประกอบสำนวนของดีเอสไอ

“สมศักดิ์” ชี้ 3 ธ.ค. ปิดคดี “บิลลี่”