ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ติดอันดับรถติด และใช้เวลาบนถนนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก เนื่องจากปริมาณรถยนต์ในกรุงเทพสูงถึง 10.2 ล้านคัน ส่งผลให้การจราจรช่วงเวลาเร่งด่วนต่างแน่นขนัด โดยเฉพาะในพื้นที่ธุรกิจอย่างช่วงสุขุมวิท อนุสาวรีย์ อโศก วิภาวดี และห้าแยกลาดพร้าว ลุกลามไปจนถึงชานเมืองช่วงสำโรง
ปิดถนนลาดพร้าว 3 ปี 1 ช่องทาง สร้างรถไฟฟ้าเพื่อชีวิตดี๊ดี !!
โดยเฉพาะพื้นที่ลาดพร้าวที่ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นพื้นที่รถติดนั้น ที่อาจจะถูกแก้ไขให้เป็นเส้นทางที่สร้างความสุขให้คนในพื้นมากขึ้น ด้วยระบบขนส่งมวลชนสาธารณะอย่างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ที่ทาง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เป็นผู้เสนอโครงการ เส้นทางลาดพร้าว-สำโรง ระยะทาง 30.4 กิโลเมตร มีจุดจอด 23 สถานี ใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยวแบบคล่อมราง หรือ โมโนเรล
ตลอดแนวเส้นทางของไฟฟ้าสายสีเหลือง จะเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดรอง หรือ Feeder Line เนื่องจากเส้นทางของสายสีเหลืองเริ่มที่สถานีรัชดา ตั้งอยู่หน้าอาคารจอดรถของ รฟม. สามารถเชื่อมต่อไปยังสายสีน้ำเงินได้ พาดผ่านมาตามแนวถนนลาดพร้าวจนถึงแยกบางกะปิ เข้าสู่สถานีภาวนา ผ่านคลองบางซื่อเข้าสู่สถานีโชคชัยสี่ จากนั้นเข้าสู่สถานีลาดพร้าว ข้ามทางพิเศษฉลองรัฐ จนเข้าสู่สถานีบางกะปิจะเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางสายศรีนครินทร์เข้าลำสาลี ซึ่งเส้นทางตรงนี้จะอยู่ในพื้นที่ชุมชนที่สำคัญ ทั้งแหล่งชุมชน สถานที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า จนเข้าสู่จุดตัดเส้นถนนสำโรงจึงเลี้ยวไปทางทิศตะวันตกตามแนวถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนสุขุมวิท จนสิ้นสุดที่สถานีสำโรง จะเห็นได้ว่ารถไฟฟ้าสายสีเหลืองนั้นจะกลายเป็นอีกเส้นทางสำคัญช่วยกระจายความหนาแน่นของประชาชนที่ต้องการเดินทางเข้าเมือง และยังเชื่อมโยงการเดินทางของระบบขนส่งมวลชนหลัก ให้เป็นโครงข่ายเชื่อมโยงทั้งระบบ
สถานีห้าแยกลาดพร้าว ใช้ฟรีถึง 5 ธ.ค. 62
ทั้งนี้ไฮไลท์สำคัญของรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ไม่ใช่แค่ขนระบายความหน้าแน่นเท่านั้น เพราะรถไฟฟ้าสายนี้มีการเชื่อมโยงระบบขนส่งถึง 4 สายด้วยกัน คือ 1.สถานีรัชดา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล 2.สถานีลำสาลี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตลิ่งชัน-มีนบุรี 3.สถานีพัฒนาการ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ และรถไฟฟ้าสายตะวันออก และสถานีสำโรง เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว แบริ่ง-สมุทรปราการ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ถือเป็นโครงการที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดในช่วงลาดพร้าว-ศรีนครินทร์ รวมไปถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการเดินทางเข้าไปสู่แหล่งการทำงานบริเวณใจกลางเมืองให้มีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย
กมลธร โกมารทัต รายงาน