เมื่อวันที่ (6 ต.ค.62) ดอกไม้และพวงมาลัย ถูกวางไว้ที่ประติมานุสรณ์ 6 ตุลา ภายใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ เพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองวันที่ 6 ตุลาคม 2519 หรือ เมื่อ 43 ปีก่อน โดยญาติผู้เสียชีวิต นักวิชาการ และตัวแทนพรรคการเมือง ที่เกิดจลาจลและปราบปรามนักศึกษาและผู้ประท้วง ขณะที่นักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัย ร่วมชุมนุมประท้วงการเดินทางกลับประเทศของสามเณรถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่สนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ธรรมศาสตร์ – จุฬาฯ ถอดบทเรียน รำลึก 40 ปี 6 ตุลาคม 2519
โดยงานครั้งนี้ สภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มอบรางวัล “จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เพื่อประชาธิปไตย” ให้นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว อดีตนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักกิจกรรม เพื่อเป็นแบบอย่างให้ผู้อื่นพิทักษ์ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมสืบไป
สำหรับ จารุพงษ์ ทองสินธุ์ เป็นอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเสียชีวิตในเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 19 ซึ่ง นพ.สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี อดีตผู้นำนักศึกษา และรัฐมนตรีหลายกระทรวงในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร แกนนำคนสำคัญของพรรคไทยรักไทย ปาฐกถาช่วงหนึ่งว่า จำเหตุการณ์ครั้งนั้นไม่มีวันลืม และทำให้วิธีการมองโลกเปลี่ยนไปตลอดกาล
นพ.สุรพงษ์ กล่าวกับคนรุ่นใหม่ว่า ฝันให้ยิ่งใหญ่ ใช้ชีวิตแต่ละวันอย่างมีความสุข ทำตามความฝันไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อย ก็ลุกขึ้นมาใหม่ เดินไปด้วยกัน ตำหนิกันบ้าง ก็อย่าถือสา เพราะหนทางยังอีกยาวไกล ต้องกุมมือกันไป กอดคอกันไป ไม่ชิงดีชิงเด่น ไม่ยึดติดในหัวโขน และไม่หลงใหลในอำนาจ
นอกจากนี้ นพ.สุรพงษ์ ยังเปรียบเทียบรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันกับปี 2540 ด้วยว่า ให้เกรดเพราะเป็นฉบับที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน และให้เกรดเอสำหรับรัฐธรรมนูญ ปี 2540 พร้อมฝากถึงคนรุ่นหลังที่เริ่มสนใจบ้านเมืองว่า ปัญหาวันนี้เทียบกับ 43 ปีที่แล้ว น้อยกว่า ขออย่าท้อแท้ อย่ากลัวว่าบ้านเมืองเดินต่อไปไม่ไหว ทิ้งบ้านทิ้งเมืองไปอยู่ต่างประเทศ แล้วคิดว่าบ้านเมืองไม่มีอนาคตอีกแล้ว ยังมีโอกาสหากตั้งใจจริง
นพ.สุรพงษ์ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องฟังเสียงประชาชนให้มาก จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ดี และไม่ควรมีใครใช้ทางลัดทางการเมือง ด้วยการทำรัฐประหารอีก
“หมอเลี๊ยบ” ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา คดีตั้งบอร์ด ธปท. โดยมิชอบ ปี 51