ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ คดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นจำเลยในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีออกหนังสือเดินทางให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นจำเลยหลบหนีคำพิพากษาและหมายจับ
"สุรพงษ์" ยืนยันความบริสุทธิ์ กรณีออกพาสปอร์ตให้ "ทักษิณ" โดยมิชอบ
โดยวันนี้ (10 ต.ค. 2562 ) นายสุรพงษ์ ได้นั่งรถเข็นวีลแชร์ เพื่อเข้ารับฟังคำพิพากษาของศาลเนื่องจากมีอาการป่วย พร้อมกับทีมทนายความและมีผู้ติดตามจำนวนมาก
สำหรับคดีนี้ศาลฎีกาฯ ได้มีพิพากษาเมื่อปี 2561 โดยเห็นว่าจำเลยในฐานะรมว.ต่างประเทศ กระทำการสนับสนุนช่วยเหลือนายทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุด ให้สามารถเดินทางในต่างประเทศได้โดยสะดวกและอยู่ในต่างประเทศโดยไม่ผิดกฎหมาย และรัฐบาลไทยไม่อาจขอให้รัฐบาลประเทศนั้นขับออกจากประเทศหรือส่งผู้ร้ายข้ามแดน อันเนื่องจากเหตุที่ไม่มีหนังสือเดินทางได้
โดยองค์คณะผู้พิพากษาเสียงข้างมากพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123/1 โดยสั่งให้จำคุก นายสุรพงษ์ เป็นเวลา 2 ปี และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่าการกระทำความผิดของจำเลยมีเจตนาช่วยเหลือผู้ต้องโทษตามคำพิพากษาของศาลซึ่งหลบหนีให้สามารถเดินทางในต่างประเทศได้สะดวก และเป็นผลบั่นทอนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมาย จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ
ซึ่งขณะนี้ทางองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ กำลังอยู่ระหว่างการอ่านคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ หากผลคำพิพากษาของศาลเป็นอย่างไรจะรายงานให้ทราบต่อไป
ศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 ปี "สุรพงษ์" คดีออกพาสปอร์ตให้ "ทักษิณ" โดยมิชอบ