อนาคตใหม่ โต้กลับ “บิ๊กแดง” ปมกล่าวหาพรรคการเมืองใหม่ ใช้ข่าวปลอม ต่อต้านกองทัพ-สถาบัน
พรรคอนาคตใหม่ชี้ “เพลงหนักแผ่นดิน”ตอกย้ำปฏิรูปทหาร
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เมื่อชายคนดังกล่าว พยายามตะโกน ถามคำถาม นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่อยู่ระหว่างบรรยายถึง 3 รอบ ในช่วงที่กำลังพูดถึงอำนาจของกองทัพกับการเมือง การสืบทอดอำนาจของ คสช. และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ผู้ฟังคนอื่น ๆ ไม่พอใจ และเข้าไปกันตัวออกจากห้องประชุม แต่ นายปิยบุตร เจรจาห้ามปราม และอนุญาตให้ชายคนนี้เข้าฟังต่อ โดยขอให้เก็บข้อสงสัยไว้ซักถามภายหลังการบรรยายเสร็จสิ้น
นายปิยบุตร ยอมรับว่า จัดบรรยายเพื่อตอบโต้วิธีคิดและทัศนคติของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่จัดเวทีบรรยายหัวข้อ "แผ่นดินของเราในมุมมองด้านความมั่นคง" เมื่อวานนี้ และมีเนื้อหาพาดพิง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่โดยตรง พร้อมมองว่า การบรรยายที่สร้างความเกลียดชัง และมองผู้เห็นต่างทางการเมือง เป็นศัตรู อาจถือเป็นการตอกลิ่มความขัดแย้งในสังคม
ขณะที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายปิยบุตร ยืนยันจุดยืนเดิมว่า จะต้องทำผ่าน "สภาร่างรัฐธรรมนูญ" ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และไม่คิดแตะต้องหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญปี 2560 ได้เขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามแก้ไข รูปแบบการปกครอง การเป็นราชอาณาจักร และโครงสร้างการเป็นรัฐเดี่ยว จึงเป็นไปไม่ได้ที่ ส.ส. จะแก้รัฐธรรมนูญเกินกรอบ พร้อมตอบโต้ว่า กองทัพหรือคณะรัฐประหารที่เข้ามายึดอำนาจ เป็นกลุ่มที่มีโอกาสแก้ไขมาตรา 1 ด้วยการฉีกรัฐธรรมนูญ
ส่วนภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ที่ พล.อ.อภิรัชต์ ให้นิยามว่า "ไฮบริจ วอร์แฟร์" หรือ สงครามลูกผสม มาใช้ชักจูงปลูกฝังแนวคิดให้กับคนรุ่นใหม่ นายปิยบุตร ไม่คิดเช่นนั้น และมองว่าสิ่งที่กองทัพกำลังพยายามทำคือการใช้กลไกทุกรูปแบบทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง พร้อมระบุว่าคน 3 กลุ่ม คือ รัฐบาล กองทัพ และสื่อมวลชน ที่เป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้งคล้ายหนังสือพิมพ์ดาวสยามในอดีต ไม่ใช้ความหวังที่จะแก้วิกฤตให้กับประเทศได้ พร้อมระบุว่า การที่เขาถูกเรียกว่า "ซ้ายจัด ดัดจริต" เพราะศึกษาประวัติศาสตร์การปฏิวัติทั่วโลก เพื่อเป็นบทเรียนและทำให้ประเทศไทยไม่เป็นแบบนั้น โดยย้ำว่า แม้จะศึกษาการปฏิงัติแต่เห็นด้วยกับการปฏิรูป
ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ย้ำว่าการบรรยายของ พล.อ.อภิรัชต์ สะท้อนให้เห็นว่าไม่มีความเป็นกลาง ขัดต่อธรรมเนียบปฏิบัติและมารยาททางการเมือง และการวางตัวของผู้บัญชาการเหล่าทัพ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจฝ่าฝืน "ระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยประมวลจริยธรรม พ.ศ.2551 และ "พ.ร.บ.ว่าด้วยวินัยทหาร พ.ศ.2476" รวมถึงอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรม โดยจะนำเรื่องนี้เข้าร้องต่อ ป.ป.ช. ในวันอังคารที่ 15 ตุลาคมนี้
