ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารคว่ำบาตรรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพลังงานของตุรกี รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล
“ทรัมป์” เตือนจะบดขยี้ศก.ตุรกีหากกระทำเกินขอบเขตในซีเรีย
ขณะเดียวกันยังมีคำสั่งให้ขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก 50 เปอร์เซ็นต์ และระงับการเจรจาการค้ากับรัฐบาลอังการาในทันที เพื่อตอบโต้ต่อการที่ตุรกีเปิดฉากปฏิบัติการทางทหารโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ดในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศซีเรีย
แถลงการณ์ของผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า คำสั่งนี้จะทำให้รัฐบาลวอชิงตันสามารถกำหนดบทลงโทษเพิ่มเติมที่มีประสิทธิภาพต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างรุนแรง การขัดขวางการหยุดยิง การสกัดกั้นผู้พลัดถิ่นไม่ให้เดินทางกลับภูมิลำเนา การบังคับส่งกลับผู้ลี้ภัย หรือการคุกคามสันติภาพ ความมั่นคงหรือเสถียรภาพในซีเรีย
พร้อมเตรียมส่งนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางไปยังภูมิภาคดังกล่าวเพื่อติดตามสถานการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการที่รัฐบาลวอชิงตันสั่งถอนทหารออกจากทางตอนเหนือของซีเรีย ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังชาวเคิร์ด พันธมิตรของสหรัฐฯ ในการต่อสู้กวาดล้างกองกำลังติดอาวุธรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) ในซีเรีย
โดยกองกำลังเคิร์ด ระบุว่า การตัดสินใจของสหรัฐฯ เป็นการ “แทงข้างหลัง” เนื่องจากเป็นการปูทางให้ตุรกีเปิดฉากปราบปรามนักรบเคิร์ดที่รัฐบาลอังการามองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย และยังอาจส่งผลทำให้กองกำลังไอเอสหวนคืนมา
ขณะที่ทหารอเมริกันและเจ้าหน้าที่กลาโหมสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจและโกรธแค้นต่อการที่รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนกองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียอีกต่อไป เนื่องจากที่ผ่านมา กองกำลังเคิร์ดมีบทบาทอย่างมากในการให้ความช่วยเหลือสหรัฐฯ ต่อสู้กับกลุ่มไอเอส แต่กลับเผชิญกับการปฏิบัติลักษณะนี้
สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่อีกรายที่ระบุว่า ทรัมป์ล้มเหลวในการต่อต้านการบุกรุกและล้มเหลวในการสกัดกั้นการโจมตีกองกำลังชาวเคิร์ด ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไฟเขียวให้รัฐบาลตุรกีจัดการกับนักรบเคิร์ดในซีเรีย
ฝรั่งเศสหวั่นภัยก่อการร้าย หลังครอบครัวนักรบไอเอสหลบหนี
“ทรัมป์” เล็งคว่ำบาตรตุรกีตอบโต้บุกกวาดล้างเคิร์ดในซีเรีย