สงครามไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เป็นคำพูดที่ไม่เกินจริง เพราะตอนนี้ได้เกิดสงคราม ระหว่างตุรกีกับกลุ่มปลดปล่อยซีเรีย หรือที่เรียกกันติดปากว่ากบฎชาวเคิร์ด ที่ครอบครองพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย
“ทรัมป์” เตือนจะบดขยี้ศก.ตุรกีหากกระทำเกินขอบเขตในซีเรีย
ที่บอกว่าไม่มีมิตรแท้หรือศัตรูถาวรนั้นก็เพราะว่า ที่ผ่านมาตุรกีซึ่งเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ ฯได้ให้ความช่วยเหลือต่อกลุ่มปลดปล่อยชาวเคิร์ดมาตลอด เพราะตุรกีเองเป็นพันธมิตรกับสหรัฐ ที่ต้องการโค่นอำนาจนายบาชาร์ อัล อัดซาด ลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีของซีเรีย
แต่ไปๆมาๆ ตุรกีกลับบอกว่า กลุ่มปลดปล่อยซีเรียไปสนับสนุนอุ้มชูกลุ่ม”ไอเอส” จึงจำเป็นต้องกวาดล้าง เพราะเป็นภัยต่อความมั่นคง ทั้งๆ ที่ทางกลุ่มชาวเคิร์ดก็พยายามอธิบายว่า พวกตัวเองต่อต้านกลุ่ม”ไอเอส”อย่างแข็งขัน แถมยังจับสมาชิกของ”ไอเอส”ขังไว้หลายพันคน แต่ตุรกีก็ไม่ฟังเสียง และยกกองทัพบุกเข้าไปจัดการตามที่ตั้งใจไว้
แต่ประเทศที่ถูกทั่วโลกตั้งคำถามมากที่สุดก็คือสหรัฐฯ เพราะสหรัฐฯคือพันธมิตรเบอร์หนึ่งของกลุ่มชาวเคิร์ดในซีเรีย เพราะเคยส่งอาวุธยุทโธปกรณ์และสนับสนุนให้กับสมาชิกกลุ่มนี้ สู้กับรัฐบาลของประธานาธิบดี”อัลอัสซาด”มาโดยตลอด แต่พอตุรกีประกาศบุกซีเรีย ฝ่ายที่ขนของขนทหารหนีออกมาเป็นรายแรกกลับเป็นสหรัฐฯ โดยอ้างเพียงว่า ไม่ต้องการปะทะกับตุรกีที่เป็นพันธมิตรของนาโต้เหมือนกัน
เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เรียกเสียงก่นด่าจากนานาประเทศได้เป็นอย่างดี ว่าเป็นคนกลับกลอกเดี๋ยวทำอย่าง พอผ่านไปไม่นานก็กลับคำทำอีกกย่าง
ส่วนในประเทศสหรัฐฯ ก็มีคนไม่เห็นด้วยมากมาย โดยเฉพาะเหล่าขุนพลทหารแม่ทัพต่างๆ ที่ดาหน้ากันออกมาถล่มโจมตีทรัมป์ว่า ถ้าสหรัฐฯทำตัวแบบนี้ คือหักหลังชาวเคิร์ดแบบดื้อๆ แล้วอีกหน่อยใครจะเชื่อใจให้สหรัฐฯเข้าไปช่วยเหลือด้านการทหารอีก
ในส่วนของชาวเคิร์ดเอง พอรู้ตัวว่าถูกลอยแพก็ออกมาขู่ทันทีว่า อาจต้องปล่อยสมาชิก”ไอเอส” ที่คุมขังไว้หลายพันคนเป็นอิสระ เพราะต้องสู้กับตุรกีเพื่อเอาชีวิตรอดก่อน ส่วนกลุ่ม”ไอเอส”ที่หนีคุก จะออกไปรวมตัวก่อวินาศกรรมที่ไหน ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้แล้ว
ฝรั่งเศสหวั่นภัยก่อการร้าย หลังครอบครัวนักรบไอเอสหลบหนี