บ.เอกชนโอด อสังหาฯชะลอตัวหนัก คอนโดฯขายติดลบ 22% วอนรัฐบาลช่วยด่วน!
นายโสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย เผยถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 ของรัฐบาล ที่เกี่ยวกับด้านอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมถึงการออกสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ระบุว่า มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจและภาคอสังหาที่รัฐบาลออกมานั้น “อาจไม่ได้ผล” เนื่องจากมีเงื่อนไขข้อบังคับที่ค่อนข้างจำกัด ซื้อได้เฉพาะบ้านมือ 1 เท่านั้น แต่การซื้อขายระหว่างประชาชนกันเองไม่สามารถทำได้ จึงเปรียบเสมือนการเอื้อกับผู้ประกอบการมากกว่าการช่วยเหลือให้เม็ดเงินกระจายไปถึงชาวบ้าน ส่วนอัตราดอกเบี้ย 3 ปีแรก คิดในอัตรา 2.5% ต่อปี มองว่าในช่วงแรกผ่อนน้อยมาก ทำให้ในช่วงหลังของสัญญาภาระอาจจะไปตกกับประชาชน เพราะในช่วงปีแรกๆ ค่างวดที่ผ่อนชำระไปจัดดอกเบี้ยเกือบทั้งหมด สำหรับการลดค่าธรรมเนียมการโอน 2% และค่าจดจำนอง 1% ให้เหลือ 0.01% นายโสภณ มองว่าโดยปกติ ผู้ซื้อกับผู้ขายจะแบ่งกันคนละครึ่งอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นภาระที่หนักเกินไป และการช่วยก็ทำได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ฉะนั้นจึงควรให้ประชาชนเสียภาษีแล้วนำเงินไปพัฒนาประเทศน่าจะช่วยได้มากกว่า
ด้านผู้ประกอบการอสังหา อย่างนายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมา ทั้งการเพิ่มลดหย่อนภาษีอสังหาริมทรัพย์ การลดค่าธรรมเนียมการโอน สำหรับบ้านไม่เกิน 3 ล้าน ส่วนใหญ่ค่าธรรมเนียมจะแบ่งกันคนละครึ่งกับผู้ประกอบการ ทำให้ค่าจดจำนองอยู่ที่ราว 3 หมื่นบาท กับค่าโอนอีก 3 หมื่นบาท รวมถึงสามารถลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 2 แสนบาท ทำให้ประชาชนสามารถประหยัดเงินในกระเป๋าได้ราวๆ 6 หมื่น ถึง 1 แสนบาทต่อหลัง จึงถือเป็นจังหวะที่ดีของผู้บริโภค รวมถึงภาวะอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับต่ำที่สุดในช่วง 30-40 ปี ด้วย
โดยนายประทีป ย้ำว่า ทั้ง 3 มาตรการรัฐ จะเข้ามาช่วยให้ภาคอสังหาริมทรัพย์กระเตื้องขึ้นเข้าสู่ภาวะปกติได้ในปี 2563 หลังจากที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบจาก มาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย หรือ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทยมาตั้งแต่ช่วงต้นปี
อสังหาฯ 4 เดือนสุดท้าย ซื้อ-ขาย ลงทุนได้หรือไม่?