จากกรณีที่เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ พร้อมภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคมและประชาชนในจ.เชียงใหม่ เคลื่อนไหวคัดค้านการปล่อยโคมไฟเวลากลางคืนในเทศกาลลอยกระทงและเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เนื่องจากเป็นการบิดเบือนวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งเกิดความเสี่ยงที่จะเกิดไฟไหม้และกระทบการขึ้นลงของเครื่องบิน รวมทั้งก่อให้เกิดปัญหาขยะจากซากโคมไฟ
เตรียมล่ารายชื่อค้านปล่อยโคมลอยทำสถิติโลก
โดยยื่นหนังสือให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พิจารณาทบทวน ซึ่งการยื่นหนังสือดังกล่าวนั้นส่งผลให้การจัดงานปล่อยโคมไฟทำสถิติโลกในช่วงลอยกระทงหรือยี่เป็งที่ห้วยตึงเฒ่าของเอกชนรายหนึ่งที่ขายแพคเก็จทัวร์ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลักต้องยกเลิกไป และอีกหลายรายถูกจับจ้อง
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่ายังมีเอกชนอีกหลายรายที่มีกำหนดจะจัดงานปล่อยโคมไฟเช่นเดิมกระจายหลายจุดทั้งการเช่าพื้นที่เอกชนและหน่วยราชการ ซึ่งคาดว่าแต่ละจุดมีโคมไฟที่คาดว่าจะถูกปล่อยจำนวนมาก
พร้อมทั้งมีกระแสข่าวจากเอกชนภาคการท่องเที่ยวกล่าวหาด้วยว่าการที่เครือข่ายภาคประชาชนออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการทำลายการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของจ.เชียงใหม่ โดยรับจ้างจากเอกชนต่างชาติที่ต้องการจัดกิจกรรมนี้เอง ออกมาเคลื่อนไหวขัดขวางผู้ประกอบการไทยไม่ให้สามารถจัดกิจกรรมได้และเปิดทางสะดวกให้ผู้ประกอบการต่างชาติสามารถจัดกิจกรรมได้ พร้อมทั้งกอบโกยผลประโยชน์ไป
นางเสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ ยืนยันว่า ทางเครือข่ายฯ จะยังเคลื่อนไหวคัดค้านเรื่องนี้ต่อไปจนถึงที่สุด พร้อมทั้งเรียกร้องให้หยุดอ้างหรือหยิบยกผลประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจมาเป็นเหตุผลในการจัดกิจกรรมนี้เสียที และผลประโยชน์ตกอยู่กับคนบางกลุ่มที่ไม่ใช่คนท้องถิ่น แต่คนท้องถิ่นต้องมารับผลกระทบ
ทั้งนี้อยากให้มีการจัดประชุมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อวางกติกาและมาตรการร่วมกันไม่เกิดปัญหาซ้ำซากทุกปีและเป็นความขัดแย้งไปตลอด
ล่าชื่อ !! ค้าน ปล่อยโคมลอย ทำลายสถิติโลก