นายพอล ชาน (Paul Chan) รัฐมนตรีกระทรวงการคลังฮ่องกง ระบุว่า การประท้วงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง และเสริมว่า คาดการณ์เบื้องต้นของจีดีพี (GDP) ไตรมาส 3 ของปี 2019 ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ จะแสดงให้เห็นถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจที่หดตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส ซึ่งเป็นนิยามทางเทคนิคของภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของปีที่ระดับ 0-1 เปอร์เซ็นต์ ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ก่อนจะมีประท้วง
"ประท้วงฮ่องกง" ฉุดส่งออกไทย 500-900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะเดียวกันจำนวนนักท่องเที่ยวยังลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนตุลาคม ที่ตัวเลขผู้เดินทางมาเยือนฮ่องกงดิ่งลงเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับธุรกิจค้าปลีก ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ จนถึงกิจการในครัวเรือน จำเป็นต้องปิดให้บริการเป็นเวลานานหลายวัน ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา จากเหตุประท้วง แม้รัฐบาลจะประกาศมาตรการช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบแต่มาตรการดังกล่าวได้ผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ประท้วงฮ่องกง ฉุดส่งออกไทย 500-900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงยืดเยื้อเข้าสู่สัปดาห์ที่ 21 แล้ว และการชุมนุมเมื่อวานนี้ มีกลุ่มผู้ประท้วงที่สวมใส่ชุดดำและปกปิดใบหน้า ก่อเหตุจุดไฟเผาร้านค้าและขว้างปาระเบิดเพลิงเข้าใส่ตำรวจ ที่ตอบโต้ด้วยการยิงแก๊สน้ำตา ฉีดน้ำแรงดันสูงและกระสุนยางเข้าสลายการชุมนุม
ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงบางส่วนมักจะจุดไฟเผาห้างร้าน และธุรกิจ รวมถึง ธนาคารสาขาที่จีนแผ่นดินใหญ่เป็นเจ้าของ ตลอดจนทุบทำลายทรัพย์สินของระบบรถไฟฟ้าเอ็มทีอาร์ (MTR) ซึ่งมองว่า ดำเนินการตามคำสั่งของรัฐบาลในการขัดขวางการประท้วงของผู้ชุมนุม ส่งผลทำให้รถไฟฟ้าต้องหยุดให้บริการเร็วกว่าปกติ และจะปิดทำการเร็วขึ้น 2 ชั่วโมงในเวลา 23 นาฬิกาของวันนี้ เพื่อซ่อมแซมความเสียหาย