“ชวน” สั่งสอบ “มงคลกิตติ์” หลังหิ้วระเบิด เข้าสภาฯ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




นายมงคลกิตติ์ และตำรวจกลุ่มงานตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิดพกสารประกอบระเบิดชนิด "ทีเอ็นที" เข้าไปในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ก่อนอ้างว่าระบบรักษาความปลอกภัยหละหลวม จากนั้นแถลงข่าวรับมอบเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นใหม่จากบริษัทในสหรัฐอเมริกา ขณะที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เตรียมตรวจสอบหากเป็นวัตถุระเบิดจริงถือว่าเป็นความผิดรุนแรง

เปิดกรุ “เต้ มงคลกิตติ์” รวยเกือบ 200 ล้าน พบ “พระกริ่งปวเรศ” แพงสุด 50 ล้าน

“มงคลกิตติ์” เสนอแผน 16 ข้อ แก้ระบบการศึกษาไทย สไตล์ อ.เต้ 007

สารที่อยู่ในกล่อง ที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร และตำรวจกลุ่มงานตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี นำเข้าเครื่องสแกนวัตถุระเบิดหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ถนนเกียกาย อ้างว่าเป็นสารประกอบระเบิดชนิด "ทีเอ็นที" เพื่อแสดงให้เห็นว่าเครื่องสแกนของอาคารรัฐสภา ไม่สามารถตรวจจับได้ และสถานที่ไม่มีความปลอดภัย โดยทีมอีโอดีนำวัตถุดังกล่าวเข้าไปในห้องทำงานนายมงคลกิตติ์ที่ติดป้าย "ฝ่ายค้านอิสระ" ซึ่งอยู่ใจกลางตรงฐานรากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่นายมงคลกิตติ์ แถลงรับมอบเครื่องตรวจวัตถุระเบิดรุ่นใหม่จากบริษัทในสหรัฐอเมริกา เพื่อมอบให้รัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติรวม 2 เครื่อง นำไปใช้ทดสอบในการรักษาความปลอดภัยการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่จะมีขึ้นวันที่ 31 ตุลาคม - 4 พฤศจิกายนนี้ พร้อมอ้างว่าทราบข่าวจากฝ่ายความมั่นคงว่ามีผู้ก่อการร้ายเข้ามาในพื้นที่ประมาณ 100 กว่าคน และเป็นเรื่องที่น่ากังวลมาก

หลังการแถลงข่าว นายมงคลกิตติ์ ยอมรับว่า การนำวัตถุที่อ้างว่าเป็นสารประกอบระเบิดเข้ามาในพื้นที่อาคารรัฐสภา ไม่ได้ขออนุญาตล่วงหน้า แต่ยืนยันว่าสารที่ตำรวจอีโอดีนำมา ยังไม่ถือว่าเป็นระเบิด เพราะเป็นเพียงสารประกอบไนโตรเจนเท่านั้น ดังนั้นไม่มีทางเกิดการระเบิดแน่นอน เพราะไม่มีอุปกรณ์จุดชนวน

ด้านนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันการแถลงข่าวและนำวัตถุที่อ้างว่าเป็นสารประกอบระเบิดเข้ามายังพื้นที่อาคารรัฐสภา ไม่มีการขออนุญาตล่วงหน้า และขอเวลาตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดอีกครั้ง แต่ยอมรับว่าการรักษาความปลอดภัยอาคารรัฐสภา ไม่ได้เข้มงวดเหมือนทำเนียบรัฐบาล แต่ก็จะกำชับให้รัดกุมมากขึ้น

ด้าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า หากพบว่าเป็นระเบิดจริง เรื่องที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดรุนแรง พร้อมสั่งฝ่ายกฎหมายพิจารณาว่ามีความผิดหรือไม่ ส่วนจะเข้าข่ายเป็นการช่วยโฆษณาขายเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดหรือไม่ เพราะการแถลงข่าวนายมงคลกิตติ์นำตัวแทนบริษัทเอกชนที่ผลิตเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดไปร่วมแถลงข่าวและสาธิตการใช้เครื่องดังกล่าวด้วย แต่ต้องรอตรวจสอบว่าผู้แถลงมีเจตนาอย่างไร

ขณะที่นายอภิรักษ์ บัวทอง ข้าราชการรัฐสภาสามัญ ซึ่งดูแลงานด้านรักษาความปลอดภัย และอยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันว่า สารที่นำมา นายมงคลกิตติ์ อ้างว่าเป็นสารประกอบวัตถุระเบิดจริง ส่วนที่เครื่องตรวจของอาคารรัฐสภาไม่สามารถตรวจจับได้ เพราะมีปริมาณน้อย และเครื่องตรวจที่ใช้อยู่เป็นการสแกนสิ่งของ ไม่ใช่เครื่องตรวจจับสารตั้งต้น ยืนยันว่าอาคารรัฐสภามีมาตรฐานในการรักษาความปลอดภัยสูง ไม่ได้หละหลวมตามที่ถูกกล่าวหา

ด้าน พล.ท.คงชีพ ตันตระ วาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงประเด็นที่นายมงคลกิตติ์ ระบุว่ามีผู้ก่อการร้ายเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้กว่า 100 คนว่า หน่วยงานความมั่นคง ยังไม่รายงานข่าวนี้ และตอนนี้เข้มงวดเรื่องการดูแลความปลอดภัยอย่างมาก เพราะไทยเป็นประธานการประชุมการประชุมสุดยอดอาเซียน ขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาหากพบบุคคลต้องสงสัย สามารถแจ้งเข้าหน้าที่ทหาร หรือ ตำรวจในพื้นที่ได้ พร้อมย้ำไปให้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายเหมือนในอดีตอีก

“มงคลกิตติ์” ยื่นทรัพย์สิน ระบุรถของภรรยา ยี่ห้อฮุนได รุ่น H5N1 ไข้หวัดนก

 

 

 

 

 

TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ