วันนี้ 31 ต.ค. 2562 ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงหลังถูกนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งตรวจสอบกรณี นำสารประกอบระเบิดชนิด ทีเอ็นที เข้ามาภายในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เกียกกาย
“ชวน” สั่งสอบ “มงคลกิตติ์” หลังหิ้วระเบิด เข้าสภาฯ
โดยยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดรู้เท่าไม่ถึงการณ์ และหากถูกลงโทษก็พร้อมยอมรับ เพราะเคารพและรักนายชวน เหมือนพ่อ และหลังจากนี้จะรอบคอบในการแถลงข่าวมากขึ้น
นายมงคลกิตติ์ ยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานว่า รู้จักเจ้าหน้าที่ บริษัทเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดของสหรัฐอเมริกาพร้อมกับนักข่าว และไม่ได้มีส่วนได้เสีย เพราะการจัดซื้อจัดจ้างต้องดำเนินการตาามกฎหมาย แต่มองว่าอุปกรณ์ที่นำมาคุณภาพดีกว่าของจีน และถือเป็นทางเลือกหากมีการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งอาจะช่วยแก้ปัญหากรณีที่ถูกสหรัฐอเมริกาตัดสิทธิประโยชย์ทางภาษี หรือ GSP ได้
ตลอดการให้สัมภาษณ์ นายมงคลกิตติ์ พยายามอธิบายถึงศักยภาพของเครื่องตรวจอย่างละเอียด พร้อมกับระบุว่าถ้ามีอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานอย่างที่สหรัฐอเมริกาใช้ ควรตรวจสอบและศึกษา จึงได้ประสานไปยังตำรวจอีโอดี ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้มีความผิด และพร้อมที่จะไปชี้แจงกับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยตนเอง
ส่วนปัญหาความปลอดภัยพื้นที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ นายมงคลกิตติ์ ยังยืนยันว่ายังไม่ดีพอ และต้องการให้ปรับปรุงให้ดีขึ้น และมีมาตรฐานสูงกว่าสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะเป็นสถานที่ทำงานของ สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติ
“ประยุทธ์” แนะมงคลกิตติ์ หากมีข้อมูลก่อการร้ายควรแจ้งฝ่ายมั่นคง
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุถึงกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้นำ สารประกอบระเบิด พร้อมอุปกรณ์ตรวจละอองระเบิดจากบริษัทเอกชนต่างชาติ มาทดสอบที่อาคารรัฐสภาเกียกกาย
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และทราบว่านายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้สั่งตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว ส่วนการกระทำของนายมงคลกิตติ์ เป็นเรื่องเหมาะสมหรือไม่ เป็นความคิดส่วนบุคคลตัวเองไม่ขอยุ่งเกี่ยว และคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนระบบรักษาความปลอดภัย เพราะคิดว่าคงไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำอีก พร้อมเตือนว่าใครจะทำอะไรควรคิดถึงผลกระทบที่ตามมาด้วย
ส่วนเรื่องที่ นายมงคลกิตติ์ อ้างว่ามีผู้ก่อการร้ายเข้ามาในพื้นที่ภาคใต้ในเวลานี้ประมาณร้อยกว่าคน นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่ามีหากมีข้อมูลจริงควรไปแจ้งให้ฝ่ายความมั่นคงทราบไม่ใช่นำมาพูดผ่านสื่อแบบนี้ เพราะหากไม่จริง อาจเกิดผลกระทบหลายอย่างตามมา
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แสดงความเชื่อมั่นว่า ข้อกล่าวหาของนายมงคลกิตติ์ จะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นต่อผู้ที่เข้าร่วมประชุมอาเซียน
“มงคลกิตติ์” เตรียมแถลงออกจากรัฐบาล