“ฟีฟ่า” เผย “ฟุตบอลโลก 2026” เป็นเจ้าภาพร่วม
ประชุมสุดยอดอาเซียน+3 ฝ่าอุปสรรคเศรษฐกิจชะลอตัว
สาระสำคัญที่เกิดขึ้นในงานดังกล่าว ถือเป็นก้าวย่างสำคัญของชาติอาเซียนที่จะเสนอตัวร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2034 โดยได้มีการลงนาม MOU ระหว่าง ประธานฟีฟ่า กับ เลขาธิการอาเซียน เพื่อส่งเสริมฟุตบอลในอาเซียน และสนับสนุนความปรารถนาร่วมกันของอาเซียนที่จะเสนอตัวร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2034 โดยมีผู้นำอาเซียนเป็นสักขีพยาน
การมาเยือนประเทศไทยของ จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานฟีฟ่า ครั้งนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดย พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ ได้มีโอกาสเลี้ยงอาหารค่ำประธานฟีฟ่าและคณะ เพื่อเป็นการต้อนรับ และในโอกาสนี้ได้มีการหารือนอกรอบถึงกรอบความช่วยเหลือที่ฟีฟ่าจะสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในทุกๆ มิติ โดยเฉพาะเรื่องการสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติ ที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
นอกจากนี้ ในการพูดคุยกันนายกสมาคม พล.ต.อ. ดร.สมยศ พูดถึงการสนับสนุนจากฟีฟ่า ในการที่ชาติอาเซียนจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันบอลโลก 2034 นั้น โดยขอให้ประธานฟีฟ่านำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเพื่อเป็นการเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมประเทศไทยควรจะต้องมีสนามฟุตบอลแห่งใหม่ ตามข้อกำหนดฟีฟ่า เพื่อให้ทัดเทียมกับประเทศในกลุ่มอาเซียนที่เสนอตัวอีก 4 ชาติ ประกอบด้วย มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย เพื่อประเทศไทยจะได้รักษาสิทธิการเป็นเจ้าภาพร่วมเมื่อถึงเวลาที่ชาติอาเซียนจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ เพราะยังมีชาติคู่แข่งที่จะเสนอตัวในอีกหลายๆ ทวีปแสดงความประสงค์ที่จะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 ตามนโยบายของสมาคมฯ ด้วย
สำหรับ ความร่วมมือที่เกิดขึ้นระหว่าง สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า กับ ประเทศสมาชิกอาเซียน นั้น สอดคล้องกับแผนการดำเนินการด้านกีฬาอาเซียน ค.ศ. 2016 ถึง 2020 และ FIFA 2.0: The Vision for the Future and UNESCO’s Kazan Action Plan โดยการจัดทำ MOU ซึ่งไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพื่อเป็นพื้นฐานสำหรับความร่วมมือในอนาคต